Site hosted by Angelfire.com: Build your free website today!
 

 

 

 

 

 

มองถูกทุกข์คลาย

 

มองอะไร ให้เห็น เป็นครูสอน

มองไม้ขอน หรือมองคน ถ้าค้นหา

มีสิ่งสอน เสมอกัน มีปัญญา

จะพบว่า ล้วนมีพิษ อนิจจัง

 

จะมองทุกข์ หรือมองสุข มองให้ดี

ว่าจะเป็น อย่างที่ เรานึกหวัง

หรือเป็นไป ตามปัจจัย ให้ระวัง

อย่าคลุ้มคลั่ง จะมองเห็น เป็นธรรมดา

 

มองโดยนัย ให้มันสอน จะถอนโศก

มองเยกโยก มันไม่สอน นอนเป็นบ้า

มองไม่เป็น จะโทษใคร ที่ไหนมา

มองถูกท่า ทุกข์ก็คลาย สลายเองฯ  

 

 

ประวัติ นางเคลื่อน พานิช

นางเคลื่อน พานิช ผู้ให้ทุนก่อตั้งคณะธรรมทานนางเคลื่อน พานิช เกิด วันอังคาร เดือน ๖ ปีกุน ๒๔๑๘ ที่บ้านท่า ตำบลท่าฉาง อำเภอท่าฉาง เป็นบุตร ขุนสิทธิสาร(เล่ง สิทธิสาร) และ นางใจ อาศัยเหตุที่ บิดามารดา เป็นสัมมาทิฎฐิบุคคล มีศรัทธามั่นคง ในพุทธศาสนา และ สนใจ ในการ บำเพ็ญ กรรมฐาน นางเคลื่อน ได้มี โอกาส ไปวัด และถืออุโบสถ ในวันพระ ตั้งแต่ ยังเด็ก และถือ เบญจศีล เคร่งครัด เป็นนิจ ตลอดมา


นายเซี้ยง พานิช บิดาท่านพุทธทาสภิกขุต่อมา ได้แต่งงาน กับ นายเซี้ยง พานิช บ้านตลาดพุมเรียง อำเภอไชยา จึงได้มาอยู่กับสามี มีอาชีพทางค้าขาย และมีบุตรที่ยังมีชีวิตอยู่ ๓ คน คือ นายเงื่อม พานิช (เวลานี้ คือ ภิกขุพุทธทาส อินทปัญโญ) นายยี่เก้ย พานิช(เปลี่ยนชื่อเป็น นายธรรมทาส) นางกิ้มซ้อย เหมะกุล, นายเฃี้ยง พานิช ได้ถึงแก่กรรม เมื่อ  พ.ศ. ๒๔๖๔ 

นางเคลื่อน จึงได้ทำหน้าที่หัวหน้าตระกูล ทำการค้าขาย เลี้ยงดูและให้บุตร ได้รับการศึกษาเป็นอย่างดี เท่าที่จะทำได้ และได้หาโอกาสออกถืออุโบสถ เป็นประจำ ตลอดมา 

เมื่อพ.ศ. ๒๔๗๕ พระมหาเงื่อม อินทปัญโญ และ นายธรรมทาส พานิช บุตร ได้ดำริ จัดตั้ง คณะธรรมทาน ขึ้น เพื่อส่งเสริม การปฏิบัติธรรม นางเคลื่อน จึงได้ ทำหนังสือ พินัยกรรม ลงวันที่ ๑ มิถุนายน ๒๔๗๕ ให้จัด ทรัพย์สมบัติ ส่วนของตน เป็นจำนวนเงิน หกพัน สามร้อย เจ็ดสิบ แปดบาท เป็นทุน เรียกว่า ทุนต้นตระกูลพานิช เพื่อให้ใช้ ดอกผล ใน กิจการ กุศล ของ คณะธรรมทาน และมีคำสั่งใน พินัยกรรม ไว้ให้ บุตรหลาน ใน ตระกูลพานิช สิบต่องานการกุศลบำรุง พุทธศาสนา นี้ไว้ เป็นกิจการ ประจำตระกูล ตลอดไป

เงินทุน ต้นตระกูลพานิช มีดอกผล ใช้ในกิจการ ของ คณะธรรมทาน ทั้งในการ จัดพิมพ์ หนังสือ พุทธศาสนา จัดบำรุง ภิกษุสามเณร ใน สวนโมกขพลาราม ตลอดมา

ในการสร้าง ถาวรวัตถุ ไว้ตาม วัดต่างๆ ในไชยา นางเคลื่อน ได้สร้างด้วย เงินส่วนตัว เป็นหัวหน้า จัดสร้าง ร่วมทุน ในการ ก่อสร้าง มากหลาย ในการจัดตั้ง คณะธรรมทาน เพื่อชักจูงแนะนำ ในการบำเพ็ญบุญ นางเคลื่อน ได้จัดให้มี การถวาย สังฆทาน และมีเทศน์ ประจำที่ ห้องธรรมทาน ได้พยายาม ชักจูง แนะนำ ญาติมิตร ให้เข้าใจ ในการ ประพฤติธรรม ที่ถูกต้อง จนเป็นที่ รักใคร่ นับถือ ในบรรดา อุบาสก อุบาสิกา โดยทั่วไป

นางเคลื่อน ได้เริ่มเป็น โรคอัมพาต ตั้งแต่ พ.ศ. ๒๔๘๙ และ ในเดือน มกราคม พ.ศ. ๒๔๙๐ โรคกำเริบขึ้น แขน และ ขาขวา พิการ ได้ถึงแก่กรรม ด้วยโรคนี้ เมื่อ วันที่ ๑๘ เมษายน ๒๔๙๑ ลูกหลาน ได้จัดการ ปลงศพ ไปแล้ว เมื่อ วันพุธ ที่ ๒๑ เมษายน ๒๔๙๑ และจะมี การบำเพ็ญกุศล ในวาระ ครบร้อยวัน อีกครั้งหนึ่ง ในวันที่ ๒๘ กรกฏาคม ๒๔๙๑

BACK

บทความในวารสาร พุทธสาสนา ปีที่ ๖๗ เล่ม ๓ พุทธศักราช ๒๕๔๒ ฉบับ ระลึกถึงพระคุณแม่