Site hosted by Angelfire.com: Build your free website today!
 



 

 

 

 

ศรัทธาความเชื่ออย่างพุทธมามกะ

ฉันปฏิญาณว่า ฉันมีความเชื่อ อย่างพุทธมามกะ ซึ่งอาจจะแตกต่าง จากความเชื่อ ของชนเหล่าอื่น ความเชื่อของพุทธมามกะ นั้นคือ 

๑) พุทธมามกะ เชื่อโดยตรงต่อเหตุผล และ ด้วยความเป็น ผู้อยู่ในอำนาจ แห่งเหตุผล ข้อนี้ย่อม ทำให้ความเชื่อ ของฉันมี พอเหมาะ พอสม ไม่มากเกินไป ไม่น้อยเกินไป และเคียงคู่กัน ไปกับปัญญา พุทธมามกะ ถือกันเป็นแบบฉบับว่า การเชื่องมงาย เป็นสิ่งที่ น่าอับอายอย่างยิ่ง พระพุทธเจ้า ซึ่งเป็นจุดรวม แห่ง ความนับถือ ของพุทธมามกะนั้น เป็นผู้ที่รู้ และดำเนินไป ตามหลัก แห่ง การใช้เหตุผล จึงเป็นผู้ กำจัด ความงมงาย ของโลก

๒) พุทธมามกะ เชื่อว่า พระพุทธเจ้า เป็นผู้ที่ได้บ่ม พระองค์เอง มาเป็น เวลาเพียงพอ จนสามารถ ลุถึงด้วยพระองค์เอง และทรงชี้ทาง ให้มนุษย์ มีความสะอาด ความสว่าง และความสงบเย็น ได้จริง เมื่อได้ พิจารณาดู ประวัติแห่งคำสอน และ การกระทำ ของ พระองค์ แล้ว คนทุกคน แม้กระทั่ง ผู้ที่ไม่นับถือ พระองค์ ก็ยอ่มเห็นได้ ทันทีว่า พระองค์ เป็นผู้ที่สมบูรณ์ ด้วยความสะอาด ความสว่าง และความสงบถึงที่สุด จนสามารถสอนผู้อื่นในเรื่องนี้ ธรรมะ ที่พระองค์ได้ทรงบรรลุ นั่นเอง ทำพระองค์ให้ได้นามว่า พระพุทธเจ้า

๓) พุทธมามกะ เชื่อว่า พระธรรม ที่ พระพุทธเจ้า ได้ทรงบรรลุ และนำมาสอนนั้น คือความจริง อันตายตัว ของสิ่งทั้งปวง อันมีอำนาจ ที่จะบันดาล สิ่งทั้งปวง ให้เป็นไปตามกฏนั้น และโดยเฉพาะ ที่มีค่า ต่อมนุษย์ มากที่สุด ก็คือ กฏความจริง ที่รู้แล้ว สามารถทำผู้นั้น ให้ปฏิบัติถูก ในสิ่งทั้งปวง และ พ้นทุกข์สิ้นเชิง พระธรรมนี้มีอยู่ สำหรับให้ มนุษย์ เรียนรู้ และทำตาม จนได้รับผล จากการกระทำ เป็น ความพ้นทุกข์ สิ้นเชิง ทั้งทางกาย และ ทางใจ

๔) พุทธมามกะ เชื่อว่า พระสงฆ์ คือบรรดามนุษย์ ที่มีโชคดี มีโอกาสก่อนใคร ในการได้รู้ ได้ปฏิบัติ และได้รับผลของการปฏิบัติ ในพระธรรม ถึงขนาดที่พ้นจากทุกข์ ยิ่งกว่า คนธรรมดา ด้วยความ แนะนำ ของ พระพุทธเจ้า พระสงฆ์ จึงเป็น ผู้ที่ควรได้รับ การนับถือ และ ถือเอาเป็น ตัวอย่าง และเป็นที่บำเพ็ญบุญ ของผู้ที่ประสงค์ จะได้บุญ ใครๆ ก็อาจเป็นพระสงฆ์ ที่แท้จริงได้ ไม่ว่า ชายหญิง บรรพชิต หรือฆราวาส เด็ก หรือผู้ใหญ่ มั่งมี หรือ ยากจน คนเป็นพระสงฆ์ ได้ด้วยการประพฤติ และการบรรลุธรรม ที่มีอยู่ในตัวเขา ไม่ใช่เพราะการเข้าพิธี หรือ การเสกเป่า ต่างๆ

๕) พุทธมามกะ เชื่อว่า โลกนี้ไม่มีบุคคลใดสร้าง หรือ คอยบังคับ ให้เป็นไป หากแต่เป็นสิ่งที่หมุนเวียนไปเอง ตาม กฏของ สังขารธรรม คือ กฏธรรมชาติ อันประจำอยู่ในส่วนต่างๆ ที่ประกอบ กันขึ้นเป็นโลก มันเป็น กฏธรรมดา หากแต่ว่า มีบางสิ่งบางอย่าง ลึกลับ ซับซ้อน ประณีต และมหัศจรรย์ พอที่จะทำให้คน บางพวก หลงไปว่า มีผู้วิเศษ คนใดคนหนึ่ง เป็นผู้สร้าง สิ่งต่างๆ เมื่อมนุษย์ เรามีความรู้เท่าทัน ความเป็นไป ของสิ่งเหล่านี้ ได้มากเพียงใด ก็สามารถ ปรับปรุงตนเอง ให้ได้รับ ประโยชน์ จากสิ่งเหล่านั้น หรืออยู่กันได้ ด้วยความผาสุก มากเพียงนั้น ไม่ต้องมีคัมภีร์ ซึ่ง อ้างว่า ส่งมาจาก สวรรค์ คงมีแต่คัมภีร์ ที่คนผู้เข้าถึงธรรมะแล้ว รู้เห็นได้อย่างไร ก็บอกไปอย่างนั้น จนผู้อื่น สามารถเข้าถึงธรรมะได้ อย่างเดียวกัน ก็พอแล้ว เราเรียก คนเหล่านั้นว่า พระพุทธเจ้าทั้งหลาย

๖) พุทธมามกะ เชื่อว่า มนุษย์แต่ละคน ล้วนมีกรรม หรือการกระทำของตนเอง เป็นเครื่องอำนายความสุข และ ความทุกข์ แล้วแต่ว่า เขาได้ทำไว้อย่างไร ในขณะที่แล้วมา ทุกคน มีกรรม เป็นของตนเอง เป็นเครื่องปรุงแต่ง ตัวเอง บังคับ ความเป็นไป ของตัวเอง โดยเด็ดขาด จนกล่าวได้ว่า เรามีกรรม นั่นแหละ เป็นตัวเราเอง ถ้าเขาอยากมี หรืออยากอยู่ในโลกที่งดงาม เขาก็ต้องทำ กรรมดี โดยส่วนเดียว ถ้าเขาเบื่อ ต่อการเป็นอยู่ในโลก ทุกๆ แบบ เขาก็มีวิธีทำให้จิตใจ ของเขาสูงพอที่จะไม่ทำอะไรๆ ให้เป็นกรรม อย่างหนึ่ง อย่างใดขึ้นมาได้ และอยู่เหนือกรรม โดยประการทั้งปวง ผู้ที่ทำกรรมชั่วไว้ จักต้องได้รับโทษ หรือ มีการทำคืนที่สมควรแก่กันเสียก่อน จึงจะพ้น จากกรรมชั่วนั้น เว้นเสียแต่ เขาได้ทำกรรมดีไว้มากอีกทางหนึ่ง ถึงกับช่วยให้ เขามีจิดใจสูง พ้นอำนาจของกรรม ไปเสียก่อน ที่มันจะให้ผลได้

๗) พุทธมามกะ เชื่อว่า ตัวแท้ของศาสนานั้น คือ ตัวการกระทำ ที่ถูกต้อง ตามกฏแห่งความจริง จนได้รับผลของการกระทำ เป็น ความสะอาด ความสว่าง และ ความสงบ จริงๆ หาใช่เป็นเพียงคัมภีร์ หรือ คำสั่งสอน หรือการสวดร้องท่องบ่น วิงวอน บวงสรวงไม่ พุทธมามกะ มีศาสนาของตนๆ อยู่ที่ กาย วาจา ใจ อันสะอาด ของตนเอง ความสะอาด ความสว่าง และ ความสงบ นี้ คือ ความหมาย อันแท้จริง ของคำว่า พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ซึ่งที่แท้ ทั้งสามองค์ เป็นองค์เดียวกัน พุทธมามกะ จึงทำใจของตน ให้ปักดิ่ง ลงที่ ความสะอาด ความสว่าง และ ความสงบ เท่านั้น 

ทั้งหมดนี้ คือ ความเชื่อ ๗ ประการ ของพุทธมามกะ 

พุทธทาสภิกขุ

๒๖ สิงหาคม ๒๔๙๘

 
BACK 

 

คัดจาก หนังสือ ชุมนุมข้อคิดอิสระ พุทธทาสภิกขุ  
พิมพ์ ครั้งที่ ๕ พ.ศ. ๒๕๓๘ โดย สำนักพิมพ์สุขภาพใจ