1)
ความรักความซื่อสัตย์ของสุนัขที่มันมีให้กับนายของมันโดยไม่คิดแบ่งแยกว่านายมันจะรวยจะจน
จะดีจะชั่วอย่างไร
ขอเพียงแต่ให้ความรักแก่มันเท่านั้นมันก็พร้อมที่จะซื่อสัตย์ต่อผู้เป็นนายของมัน
ไม่มีวันที่จะทรยศ
เหมือนเช่นคนบางคนที่เรียกตนว่ามนุษย์ในยุคปัจจุบัน
2)
สงครามไม่เคยสร้างสรรสิ่งที่ดีแก่ใคร
มันเป็นวิธีการที่ใช้ทำลายล้างหรือยุติข้อขัดแย้งซึ่งต้องแลกมาด้วยเลือดและน้ำตาเท่านั้น
3)
การใช้ชีวิตคู่ เมื่ออยู่กันด้วยความรักความเข้าใจที่มีให้แก่กันเสมอมา
หากว่ามีเหตุอันใดที่ทำให้ต้องจากกัน
ชีวิตที่เหลืออยู่จากนี้แม้ต้องอยู่เพื่อรอวันกลับมาก็จะรอ
แม้รู้ว่ารอโดยไม่มีจุดมุ่งหมายก็จะรอ โดยเก็บเอาคืนวันที่ดี ๆ
ที่ผ่านมาเปลี่ยนเป็นกำลังใจให้ต่อสู้และอดทน
และคล้ายจะสัญญาว่าเค้าคนนั้นคือคนดีคนเดียวตลอดไป
ซึ่งในยุคปัจจุบันอาจหาได้ยากแต่ใช่ว่าจะหาไม่ได้เลย
4)
ความรักที่แม่มีให้แก่ลูกไม่ว่าจะยามสุข ทุกข์ เศร้าใจ
หรือสุขสันต์อย่างไรก็ยังคงมีให้เสมอมา
ยอมอดเพื่อท้องลูกได้อิ่ม
ยอมฝืนยิ้มเพื่อแลกกับความสบายใจของลูก
5)
สุนัขเป็นสัตว์เลี้ยงที่ต้องการความรักความเอาใจใส่จากนายของมัน
เช่นเดียวกับการเลี้ยงลูกก็จำเป็นต้องให้ความรักความเอาใจใส่ของพ่อ
แม่ตลอดจนการอบรมสั่งสอนไม่ต่างจากการเลี้ยงสุนัขแต่อย่างใด
6)
การหาความรู้ใส่ตัวไม่ว่าหญิงหรือชายล้วนแล้วแต่มีความสำคัญกับตนเอง
ไว้ช่วยเหลือตนเองในยามทุกข์ยากได้
อย่างเช่นแม่บ้านที่สามีเป็นคนหาเลี้ยงหากวันใดสามีเกิดจากไป
ชีวิตที่เหลือจะได้ใช้วิชาความรู้ที่ตนมีเลี้ยงชีพได้
7)
ความเมตตากรุณาของมนุษย์ไม่ว่าจะมีต่อมนุษย์ด้วยกันหรือมีให้แก่สรรพสัตว์ทั้งหลายล้วนแล้วแต่มีคุณค่ายิ่ง
และยิ่งไปกว่านั้นหากหยิบยื่นความเมตตาให้ยามคนหรือสัตว์เหล่านั้นต้องการที่พึ่งพาหรือยามไร้แล้วซึ่งความหวัง
ยิ่งเป็นสิ่งที่ประเสริฐยิ่งนักเพราะนั่นคือสิ่งที่ใช้ต่อชีวิตให้กับชีวิตที่กำลังจะล้ม
ให้ลุกขึ้นยืนและเดินได้อีกครั้ง
8)
ในยามที่คนเราหมดสิ้นทุกสิ่งทุกอย่าง
หาจุดหมายปลายทางของตนเองไม่เจอ
คิดแต่เพียงว่าเอาชีวิตวันนี้ให้รอดก็พอ
ถึงต้องขโมยเขากินก็ยอม แต่ลึก ๆ
ในจิตใต้สำนึกอาจคัดค้านอยู่ก็เป็นได้
แสดงว่าเขาจำต้องเลวแต่ใช่จะเลวโดยสันดานไม่
หากเขาคิดกลับใจเราก็ควรให้อภัยเท่าที่คิดว่าเราให้ได้
นั่นคือโอกาสในการเพิ่มคนดีแก่สังคมนั่นเอง
9)
เมื่อมอมเจอนายเก่าของมันและต้องการจะไปอยู่กับนายเก่า
แม้ว่าจะลำบากกายเพียงใดขอแค่มีเพียงความสุขใจก็พอ
หากคนเราทำอะไรเพื่อความสุขทางใจ
การแก่งแย่งชิงดีเอารัดเอาเปรียบความเห็นแก่ตัวของสัตว์สังคมคงลดน้อยลงกว่าที่เป็น
10)
ไม่ว่าคนหรือสัตว์อาจแตกต่างกันแค่เพียงประเสริฐหรือเดรัจฉาน
เมื่อสิ่งที่เรียกมันว่าเดรัจฉานมันยังคิดได้
ทำได้ถึงเพียงนี้แล้วสิ่งที่แทนตนว่าประเสริฐล่ะ
แท้จริงแล้ว
คิดได้อย่างเดรัจฉานทุกคนหรือ
?
เช่นนั้นจงทำตนให้ซื่อสัตย์ ซื่อตรง
มีความรักให้กับเพื่อนมนุษย์ด้วยกันอย่างจริงใจตั้งแต่ตอนนี้
เพื่อจะได้ประเสริฐอย่างคำที่พูดเสียที
|
|