OH-DO-KWAN-HAP-KI-DO
 
Switch language -> English


"Oh-Do-Kwan Hap-Ki-Do" ถูกสร้างขึ้นโดย Grandmaster Klaus Schuhmacher และถูกแนะนำอย่างเป็นทางการในเมืองแฟรงค์เฟิร์ตประเทศเยอรมนีในปี 1986 Soke Klaus Schuhmacher ได้ศึกษาศิลปะการต่อสู้ตั้งแต่เขายังเป็นเด็ก

เพื่อให้เข้าใจถึงที่มาของศิลปะ "Oh-Do-Kwan Hap-Ki-Do" คุณต้องทราบประวัติของ "Hap-Ki-Do" เสียก่อน

ประวัติความเป็นมาของ "Hap-Ki-Do"

Soke Klaus Schuhmacher ได้สายดำขั้นที่ 10 "~10th degree Dan Black Belt" ของศิลปะการต่อสู้ "Hap-Ki-Do" ซึ่งเขาไม่เห็นด้วยกับวิธีการที่สอนในรูปแบบของ "Hap-Ki-Do" เพราะเขาเห็นข้อผิดพลาดในวิธีการและความก้าวหน้าในรูปแบบการสอน

Soke Klaus Schuhmacher ผ่านการเรียนด้วยความรอบคอบและสำเร็จศิลปะการต่อสู้อย่างแท้จริงในสายศิลปะการต่อสู้ของ "Hap-Ki-Do" จนทำให้เขาได้พัฒนาศิลปะการต่อสู้ "Hap-Ki-Do" รุ่นใหม่ออกมาในปี 1986 และเปิดตัวอย่างเป็นทางการโดย "KLAUS SCHUHMACHER'S SYSTEM OF TRADITIONAL HAP-KI-DO" ซึ่งเป็นระบบภายใต้ชื่อของ "Oh-Do-Kwan" นั้นเอง

เขาได้ทำการรวบรวมกลุ่มการสอนและกลุ่มเทคนิคทั้งหมดของ "Hap-Ki-Do" เข้าด้วยกัน และนำไปใช้ในระบบที่มีสายดำสูงสุดขั้นที่ 13 ซึ่ง Soke Choi เป็นผู้ถือสายดำขั้นที่ 13 เพียงผู้เดียวตลอดไป

สองเหตุผลหลักที่ได้สร้างระบบอันดับแบบนี้ คือ

หมายเหตุ การใช้หลักอันดับสูงสุดถึง 20 อันดับ (Master rank) โดยทั่วไปแล้วจะใช้กันในสมัยโบราณของประเทศเกาหลีและญี่ปุ่นเท่านั้น แต่ช่วง 90 ปีที่ผ่านมาไม่มีการนำเอาระบบนี้มาใช้งานเลย อย่างไรก็ตามยังมี Grandmasters ท่านอื่นๆ ที่ได้สายดำขั้นสูงบนพื้นฐานระบบสมัยเก่านี้มา ซึ่งมีดังนี้

ด้วยระบบ "KLAUS SCHUHMACHER'S SYSTEM OF TRADITIONAL HAP-KI-DO" ที่ได้เรียนในขั้นผู้เริ่มต้นทั้งหมด จะถูกนำไปใช้งานจนไปถึงขั้นการเรียนของระดับ Master

Soke Schuhmacher ไม่ได้หยุดเพียงแค่นั้น เขาได้ทำงานเป็นผู้สอนในระบบสายการป้องกันตัวแบบสมัยใหม่ ที่ประกอบด้วยการเรียนการสอน เทคนิคต่างๆ หลักการและทฤษฎีต่างๆ ซึ่งเป็นสกิลที่ถูกนำไปใช้ในด้านการต่อสู้และป้องกันตัวแบบ "Street-fighting" เขาได้ทำการคัดเลือกเฉพาะเทคนิคที่มีประโยชน์และใช้การได้จริงเอาไว้ เทคนิคที่ไร้ประโยชน์เขาจึงตัดออกจากระบบการสอน ซึ่งมีอาจารย์หลายท่านยังคงสอนอยู่ ทำให้ผู้เรียนเหล่านั้นไม่ได้เรียนศิลปะนี้อย่างเต็มที่ หรือที่จะเข้าใจแกนลึกที่แท้จริงของสายศิลปะการต่อสู้และศิลปะการป้องกันตัวของ "Hap-Ki-Do" นั้นเอง

หลังจากที่ได้สอนศิลปะการต่อสู้ของ "Hap-Ki-Do" ทั่วโลกมาเกือบ 28 ปี Grandmaster Schuhmacher ได้มีโอกาสพบอาจารย์ขั้นสูงหลายท่านในสายศิลปะการต่อสู้ของ "Hap-Ki-Do" ซึ่งพวกเขาหลายท่านยังไม่รู้ถึงเทคนิคและหลักการการสอนของระบบที่แท้จริง ซึ่งหลายครั้งที่พวกเขายังใช้ท่าล็อกหรือทุ่มที่ผิดพลาด ซึ่งจุดนี้ "O.D.K." ยินดีที่จะสอนทุกท่านและพยายามที่จะช่วยคนเหล่านั้นให้เข้าใจและเพื่อสอนผู้คนเหล่านี้ให้ได้เรียนรู้เทคนิคให้ถูกต้อง ตามความเป็นจริงที่แท้จริงให้อยู่ในทิศทางที่ถูกต้องด้วย ตามวัตถุประสงค์และเจตนารมณ์ของ Soke Choi

ผู้ที่ถือสายดำและได้รับการรับรองอย่างเป็นทางการ

ปัจจุบันมีเพียงบุคคลเหล่านี้ที่ได้การรับรองอย่างเป็นทางการให้ถือสายดำของสายศิลปะการต่อสู้ของ "Oh-Do-Kwan Hap-Ki-Do"

Grandmaster Norbert Englich (เยอรมันนี) 7th Dan

Grandmaster Emil Gruber (เยอรมันนี) 7th Dan

Guido T๖pfer (เยอรมันนี) 3rd Dan

Dr. Josef Iglhaut (เยเมน) 2nd Dan

Michael de Fillipo (บัวโต้ ริโค่) 1st Dan

Dr. Nigel May (ออสเตรเลีย) 1st Dan


ให้การอบรมสัมมนาทั่วโลก

สามารถจัดสัมมนาที่โรงเรียนของคุณได้แล้ววันนี้กับ Grandmaster Schuhmacher


รายละเอียดการทดสอบ

นับตั้งแต่ก่อตั้งขึ้นก็มีการพัฒนาในเชิงโต้ตอบ และอยู่ในรูปแบบของโปรแกรมแบบมัลติเมเดียระดับนานาชาติ

ระบบส่วนใหญ่ของโรงเรียนศิลปะการต่อสู้แบบทดสอบทั่วๆ ไปแล้ว จะสามารถทดสอบได้ก็ต่อเมื่อตามกำหนดเวลาของผู้เป็นอาจารย์ซะส่วนใหญ่ แต่จะเกิดอะไรขึ้น ถ้าคุณรู้สึกว่าคุณเหลือเพียงไม่กี่อาทิตย์เพื่อที่จะทำให้ตัวเองต้องเตรียมความพร้อมที่จะผ่านทดสอบนี้ และต้องถูกบีบบังคับให้ตามดำหนดการทดสอบดังหกล่าว จนอาจจะทำให้คุณต้องไม่ผ่านการทดสอบดังกล่าว ไม่ว่าจะเป็นจากความไม่พร้อม หรือการที่มีเวลาว่างไม่ตรงกับการกำหนดการทดสอบของครั้งนั้นๆ คุณก็ต้องรอรอบทดสอบรอบใหม่อีกที ซึ่งในบางครั้งนานนับเป็นเดือนๆ ซึ่งนั้นอาจจะมองว่าไม่แฟร์หรือเหมาะสมสักเท่าไร ดังนั้นระบบของ Klaus Schuhmacher`s "Oh-Do-Kwan-Hap-Ki-Do" จะไม่เป็นอย่างนี้และยังจะให้ขึ้นอยู่กับความพร้อมแบบส่วนตัวของนักเรียนเองด้วย ถึงแม้ว่าจะฝึกแบบส่วนตัวหรือฝึกจากชุดโปรแกรมมัลติมีเดียก็ตาม เมื่อคุณพร้อมพวกเราก็จะพร้อมที่จะตัดสินการทดสอบของคุณตามที่คุณต้องการ

และอีกหนึ่งปัญหาที่ได้พบมากที่สุดที่เกี่ยวกับการทดสอบแบบทั่วไปก็คือ นักเรียนเหล่านั้นส่วนใหญ่จะต้องถูกทดสอบแบบรวม ซึ่งมีจำนวน 10 ถึง 20 คนขึ้นไปในการทดสอบครั้งๆ ซึ่งมีผลทำให้ไม่สามารถที่จะประเมินผลการปฏิบัติของนักเรียนแต่ละคนอย่างแม่นยำหรืออย่างละเอียดอย่างแท้จริงได้เลย และจะไม่มีทางที่จะแก้ไขการปฏิบัติที่ถูกต้องให้กับนักเรียนแบบรายตัวได้อีกด้วย ด้วยเหตุผลนี้ทำให้ระบบ "Oh-Do-Kwan Hap-Ki-Do" ของท่าน Klaus Schuhmacher เป็นระบบแบบรายบุคคล ซึ่งไม่เพียงที่จะให้การประเมินแบบรายบุคคล แต่ยังให้ดีกรีและระดับที่แท้จริงด้วย นอกจากนี้ยังคงใช้ระบบการบันทึกเวลาทำการทดสอบ เพื่อทีจะแก้ไขและแนะแนวได้ตลอดระยะเวลาทดสอบอีกด้วย ซึ่งเมื่อเป็นเช่นนี้จะสามารถสังเกตข้อผิดพลาดทั้งของตนเองและผู้ประเมินได้ตลอดเวลา เพื่อเพิ่มความสมบูรณ์และเทคนิคที่ถูกต้องให้กับทุกกระบวนท่าของการทดสอบ

ด้วยการทดสอบจากสื่อแบบ "DVD" จะทำให้นักเรียนคนนั้นถูกประเมินอย่างมีประสิทธิภาพ รูปแบบของกระบวนท่าจะสังเกตเห็นได้ชัดเจน รายละเอียดเกี่ยวกับความผิดพลาดจะสามารถแก้ไขได้ง่ายกว่าเดิม จากนั้นเราจะรวบรวมการบันทึกที่เป็นข้อผิดพลาดและแนวทางการแก้ไขให้ท้าย DVD อีกด้วย ซึ่งระยะเวลาของบทเรียนนั้นจะขึ้นอยู่กับข้อผิดพลาดที่มีมากหรือน้อยของนักเรียนคนๆ นั้น โดยทั่วไปแล้วจะเฉลี่ยประมาณ 20-30 นาที และสิ่งที่น่าสนใจที่สุดของระบบนี้ก็คือ คุณไม่ต้องแก้ไขข้อผิดพลาดทั้งหมดของตัวเองภายในครั้งเดียว คุณสามารถทดสอบใหม่และแก้ไขข้อผิดพลาดได้ตามความพร้อมและตามเวลาตามที่คุณต้องการ


ระบบการบันทึก

1) อันดับทั้งหมดและวันที่ของรายการทดสอบจะถูกบันทึกไว้ และเก็บไว้บนคอมพิวเตอร์ที่มีระบบความปลอดภัย ณ สำนักงานใหญ่นานาชาติของ H.K.D.O.D.K.W.

2) การยืนยันอันดับอาจจะได้รับจากสมาชิกใด ๆ เกี่ยวกับตัวเองหรือสมาชิกอื่น ๆ หรือที่ไม่ใช่สมาชิกที่ได้รับการรับรองมา ซึ่งจะมีค่าธรรมเนียมเล็กน้อยสำหรับการการประเมินการทดสอบ

3) การตรวจสอบระดับ จะบอกถึงการจัดอันดับต่างๆ ของตนเองในปัจจุบัน (การได้มีคุณสมบัติตามระดับ การรับรองอันดับอย่างเป็นทางการ และสถานะของตัวเอง)

ถ้าหากพูดถึงระบบทั่วๆ ไปแล้ว การที่จะเข้าไปสู่ระบบของแต่ละระบบแล้วจะมาจากต้นฉบับและรูปแบบของระบบนั้น และยิ่งเวลาผ่านไปนานเท่าใด และการได้มานั้นๆ หากว่ามีข้อผิดพลาดก็จะยิ่งเพิ่มข้อผิดพลาดให้กับรุ่นต่อรุ่นอยู่เรื่อยๆ หรืออาจจะทำให้กลายเป็นเทคนิคที่ถูกเปลี่ยนแปลงไปในทิศทางที่ผิด

ซึ่งการแก้ไขข้อผิดพลาดเหล่านั้นตามการบันทึกการปฏิบัติของนักเรียนในสื่อ DVD จึงสามารถแก้จุดเหล่านี้ได้อย่างที่กล่าวเอาไว้ในข้างต้น เมื่อพบข้อผิดพลาดก็จะสามารถกลับมาดูได้ทันทีและแก้ไขได้อย่างง่ายดาย ซึ่งส่งผลดีทั้งผู้เรียนและผู้สอนโดยตรง ง่ายต่อการประเมิน ง่ายต่อการแก้ไข และส่งผลดีทั้งเทคนิคและความรู้ด้านศิลปะการต่อสู้อย่างแท้จริงภายในระยะเวลาอันยาวอีกด้วย

โรงเรียนฝึกสอนศิลปะการต่อสู้หรือศิลปะการป้องกันตัวส่วนใหญ่แล้วจะไม่คำนึงถึง รูปแบบหรือระบบของการทดสอบสักเท่าไร และนักเรียนก็ถูกทดสอบแบบหลายๆ คนพร้อมกัน ถามว่าคุณสามาถประเมินนักเรียนพร้อมๆ กันได้กี่คนภายในเวลาเดียวกัน ? จึงทำให้สรุปได้อย่างง่ายว่า พวกเราควรที่ทดสอบนักเรียนด้วยระบบแบบส่วนตัวที่ทำการบันทึกระหว่างการฝึกปฏิบัติในรูปแบบ DVD มากยิ่งขึ้น

เมื่อได้รับบันทึกการฝึกปฏิบัติที่อยู่ในรูปแบบ DVD แล้ว จะวิเคราะห์ประสิทธิภาพของการฝึก ทุกกระบวนท่าสู่กระบวนท่า และยังทำการจดบันทึกรายละเอียดต่างๆ ด้วยการหยุดวีดีโอระหว่างการฝึกเพื่อแนะนำ แก้ไข และเพื่อให้รูปแบบที่สมบูรณ์ที่สุดเท่าที่จะทำได้


H o m e

E-mail: wmal@mail.com