|
มะกล่ำตาหนู
( Jequirity bean ) เป็นไม้เลื้อย ( climbling plant) ตระกูลถั่ว
วงศ์ Papilionaceae มีชื่อทางวิทยาศาสตร์ Abrus precatorius Linn. มีใบออกเป็นคู่รูปขนนก
มีใบย่อย 8- 15 คู่ ขอบใบเรียบ ออกดอกเป็นช่อที่ซอกใบ กลีบดอกมีหลายสี เช่น
ม่วง แดง ชมพู หรือขาว ผลเป็นฝักคล้ายถั่วลันเตา ภายในฝักจะมี 3-5 เมล็ด เมล็ดกลมรียาวขนาด
6-8 มิลลิเมตร เมล็ดมีเปลือกแข็ง สีแดงสดเป็นมัน มีสีดำตรงขั้วประมาณ 1 ใน
3 ของเมล็ด มะกล่ำตาหนู เป็นพืชที่ขึ้นได้ทั่วไปบริเวณประเทศในแถบเส้นศูนย์สูตร
ได้แก่ ทางตอนใต้ของจีน อินเดีย ฟิลิปปินส์ ศรีลังกา ตอนใต้ของอาฟริกา และประเทศไทย
เป็นต้น มีชื่อเรียกต่าง ๆ กัน ได้แก่ jequirity bean, rosary bean, Buddhist
rosary bean , Indian bead, Seminole bead, prayer bead, crab 's eye, weather
plant, lucky bean ส่วนชื่อไทย นอกจากมะกล่ำตาหนูแล้ว ยังมีชื่อเรียกตามภาษาท้องถิ่นต่าง
ๆ คือกล่ำเครือ, กล่ำตาไก่, มะกล่ำแดง, มะแด๊ก, มะขามไฟ, ตาดำตาแดง, ไม้ไฟ
เป็นต้น
ความเป็นพิษ: เมล็ดมะกล่ำตาหนู ภายในเมล็ดมีส่วนประกอบของ
N-methyltryptophan, abric acid, glycyrrhizin, lipolytic enzyme และ abrin
ซึ่งสูตรโครงสร้างของ abrin คล้าย ricin เป็นส่วนที่มีพิษสูงมาก หากเคี้ยว
หรือกินเข้าไป เนื่องจากสารพิษจะไปทำลายเม็ดเลือดแดง ระบบทางเดินอาหาร และไต
อย่างไรก็ดีสาร abrin นี้เมื่อถูกความร้อนจะสลายตัวง่าย แต่คงทนอยู่ในทางเดินอาหาร
ขนาดเพียง 0.01 มิลลิกรัมต่อน้ำหนักตัว 1 กิโลกรัม หรือกินเพียง 1 เมล็ด
ก็ทำให้เสียชีวิตได้ หากสารพิษถูกผิวหนังอาจทำให้เกิดผื่นคัน หากถูกตาจะทำให้เกิดอาการระคายเคืองและอาจถึงกับตาบอดได้
อาการและอาการแสดง: ระยะแรกจะมีอาการของระบบทางเดินอาหาร
ภายในเวลาไม่กี่ชั่วโมงหลังจากรับประทาน ได้แก่อาเจียน ท้องเสีย ปวดท้อง
ในรายที่มีอาการรุนแรงอาจมีอาเจียนเป็นเลือด ถ่ายอุจจาระมีมูกเลือด และช็อกจากการเสียเลือด
(hypovolemia) ได้ ระยะต่อมา ประมาณ 2-3 วัน ผู้ป่วยจะเริ่มมีอาการทางระบบอื่น
เช่น ซึม กล้ามเนื้ออ่อนเพลีย หัวใจสั่น มือสั่น ผิวหนังแดง ชัก retinal
haemorrhage ตับวาย ไตวาย เป็นต้น เคยมีรายงานผู้ได้รับพิษจากกินเมล็ดมะกล่ำตาหนู
1 รายเมื่อปี พ.ศ. 2541 ผู้ป่วยเป็นเด็กชาย อายุ 4 ปี จากจังหวัดบุรีรัมย์
โชคดีที่แพทย์รับรักษาไว้ได้ทัน จึงรอดชีวิต
ข้อควรระวัง: เมล็ดมะกล่ำตาหนูเป็นพืชที่มีเมล็ด
สีสัน งดงามสะดุดตา เมล็ดมีพิษที่รุนแรงมาก ถ้าเด็กกินเข้าไปโดยรู้เท่าไม่ถึงการณ์ก็อาจเสียชีวิตได้
จำเป็นต้องระมัดระวังและผู้ใหญ่ค้องมีความรู้ความเข้าใจที่ถูกต้องด้วย
เอกสารอ้างอิง :
- Ellenhorn MJ. Ellenhorn 's medical toxicology:diagnosis
and treatment of human poisoning. 2 nd ed. Philadelphia:Williams&Wilkins
1997, 1849.
- Henry JA, Wiseman HM. Management of poisoning. WHO:Geneva;1997:278-80.
- อรพรรณ อื่นสุวรรณ. พิษมะกล่ำตาหนู: Jequirity poisoning.
วารสารการแพทย์โรงพยาบาลศรีษะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ 2541;13:69-73.
โดย: ประพันธ์ เชิดชูงาม, วทบ, DAP&E,
MPH, ศุภชัย รัตนมณีฉัตร, พบ, สม, MSc
ภาควิชาเวชศาสตร์ป้องกันและสังคม คณะแพทยศาสตร์ศิริราชพยาบาล
กลับหน้าแรก
|
|