Site hosted by Angelfire.com: Build your free website today!
 

 
ฟ้าสางทางการขุดเพชร

คำนำ

ข้อความต่อไปนี้ เป็นคำปราศรัยที่กล่าวแก่ชุมนุม ผู้มาร่วมบำเพ็ญบุญล้ออายุ ปีที่ ๘๐ ของข้าพเจ้า เมื่อวันที่ ๒๗ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๕๒๘ มีข้อความที่ควรบันทึกไว้ เป็นอนุสรณ์ตลอดไป เกี่ยวกับสถานภาพต่างๆ ที่มีปัญหา และมีข้อความสำคัญในการที่จะเตรียมตัวไว้ สำหรับการก่อกู้พระพุทธศาสนา ในวาระสมัยแห่งยุคปรมาณู เช่นการเข้าถึงหัวใจของพระพุทธศาสนา, การเตรียมพระไตรปิฏก ที่เหมาะสมสำหรับยุคปรมาณู ที่สามารถเผชิญหน้ากับ ความต้องการของมนุษย์ แห่งยุควิทยาศาสตร์ อันจะถือได้ว่าเป็นยุคสำคัญที่สุดของมนุษย์โลก สำหรับการอยู่รอด หรือการสูญสลายไปแห่งมนุษยธรรม. หวังว่าจะได้รับการสนใจพิจารณากัน ในหมู่พุทธบริษัทเรา ตามที่ควร.

พุทธทาส อินฺทปญฺโญ

 

 

การปลดออกบางส่วนของพระไตรปิฏก 

ถ้าพูดกับครูบาอาจารย์ชั้นสูงแห่งยุคปรมาณูที่มีการศึกษามาถึงที่สุดแล้ว ทั้งทางวิทยาศาสตร์และโบราณคดี ได้ลูบคลำพระไตรปิฎกมาอย่างทั่วถึงแล้ว เราไม่ต้องพูด เขาก็พูดของเขาได้เอง ว่าควรจะชักออกสักเท่าไร จึงจะมีความคงกระพันชาตรี สามารถเผชิญหน้า ท้าทายความต้องการทุกอย่าง สำหรับโลกแห่งยุคปรมาณู แต่ถ้าเขามาถามเรา เราก็พูดได้เหมือนกันว่า "ฉีก" ออกได้อีก ๓๐ เปอร์เซนต์ รวมกันเป็น ๖๐ เปอร์เซนต์, เหลือ ๔๐ เปอร์เซนต์ ก็จะหาพบเพชรเม็ดนั้นได้มากขึ้น. 

ขอให้ทุกคน ช่วยกันจำ เพื่อเป็นพยาน ไว้ด้วยว่า อาตมาได้พูดว่า สำหรับนักศึกษาปัญญาชนทั่วไป จึงจะปลดข้อความในพระไตรปิฎกออกไปเสียสัก ๓๐ เปอร์เซนต์, และอีก ๓๐ เปอร์เซนต์ สำหรับพูดกับนักศึกษา ผู้แตกฉานทางวิทยาศาสตร์ โบราณคดี และประวัติศาสตร์ของพระไตรปิฎกนั้นเอง. แต่ถ้าพูดกับคุณย่า คุณยาย หรือใครก็ตามที่ยังสมัครที่จะตีกระป๋องช่วยพระจันทร์แล้ว ขอบอกว่าไม่ต้อง"ฉีก" หรือปลดอะไรออกเลย ก็ได้. พระไตรปิฎกมีข้อความครบถ้วนสำหรับคนทุกระดับ นับตั้งแต่ไม่มีการศึกษาจนถึงมีการศึกษาสูงสุด, แต่เมื่อจะหยิบยื่นให้แก่นักศึกษาแห่งยุคปรมาณูแล้ว ก็หยิบยื่นให้ไป เฉพาะเรื่องความดับทุกข์โดยตรง เว้นสูตรเช่นจันทิมสูตร สุริยสูตร อาฏานาฏิยสูตร ซึ่งจะเป็นที่แย้มสรวลของคนเหล่านั้น, ตลอดถึงคำพูดบางตอนที่มีลักษณะเป็น สัสสตทิฏฐิ เป็นต้นเสีย

สำหรับนักโบราณคดีที่แท้จริงนั้น เขารู้ได้เองว่า สิ่งที่เรียกว่า พระไตรปิฎกนั้น เพิ่งเกิดเมื่อมีการจารึกข้อความเป็นตัวอักษร ลงในสิ่งใดสิ่งหนึ่ง ซึ่งเป็นวัตถุที่สามารถแยกคัดเป็นตะกร้าหรือกระจาดได้, ซึ่งเพิ่งจะมีเมื่อระหว่าง ๕๐๐-๑๐๐๐ ปีหลังพุทธปรินิพพาน; เพราะปรากฏว่ามีเรื่องราวทำนองปรัชญา ที่ใช้โต้แย้งกันในอันธรประเทศ หรืออินเดียตอนใต้นั้น ก็เข้าไปรวมอยู่ในอภิธรรมปิฎก ที่เป็นส่วนคัมภีร์กถาวัตถุ เมื่อเขาเห็นความจริงข้อนี้ นักศึกษาเหล่านั้น ก็แยกของใหม่ชนิดนี้ ออกได้เอง จะขอยกตัวอย่างนักศึกษาสักคนหนึ่ง คือ โปรเฟสเซอร์ ริดส์ เดวิด, ท่านผู้นี้และคณะของท่าน ไม่ได้ถือเอาพระไตรปิฎกทั้งหมด ว่าเป็น สุตตะเก่า หรือ OLD SUTTA โดยคัดอภิธรรมกับอะไรอื่นอีกบางส่วนออกไป คงถือเอานิกายบางนิกายแห่งสุตตันตปิฎกว่าเป็นของเก่าของเดิม หรือ โอลด์ สุตตะ.

เอาละ เป็นอันว่า อาตมายอมเสียสละ : ไม่ใช่เรียกว่าเสี่ยง แต่จะถูกแน่ๆ คือถูกบางคนรุมกันแช่งรุมกันด่า ตั้งค่อนบ้านค่อนเมืองก็ได้ ที่กล้าพูดว่าพระไตรปิฎกนั้น ถ้าจะยื่นให้แก่นักศึกษา อาจจะปลดออกหรือฉีกออกได้ สัก ๓๐ เปอร์เซนต์ ถ้าสำหรับนักวิทยาศาสตร์ นักโบราณคดีตัวยง แห่งยุคปรมาณูในปัจจุบันหรืออนาคต อาจจะปลดออกได้อีก ๓๐ เปอร์เซนต์, ถ้าสำหรับคนทั่วไปรวมทั้งยายแก่ตาแก่ที่สอนเด็ก ให้ตีกระป๋องช่วยพระจันทร์เมื่อราหูจับนั้น ไม่ต้องปลดอะไรออกเลย. สำหรับที่เหลือ ๔๐ เปอร์เซนต์จัดเป็นเรื่อง การดับทุกข์โดยวิถีทางวิทยาศาสตร์ ที่ไม่อาจจะปลดหรือฉีกออกได้อีกต่อไป นั่นแหละคือหลักพุทธศาสนาชั้นที่เป็นเพชรเม็ดเอก, ชั้นที่เป็นเครื่องประกอบของเพชร, และชั้นที่เป็นเครื่องขุดเพชร, ที่คงกระพันชาตรีทนทานต่อการพิสูจน์ ของวิทยาศาสตร์ยุคปัจจุบัน. นี้คือของขวัญวันล้ออายุ สำหรับปีนี้เป็นเสรีภาพในการถือหลักธรรม เพื่อประโยชน์แก่ชีวิตของตน ในการขุดหาเพชรหรือเลือกให้พบสิ่งที่เป็นเพชร; มีสิทธิเสรีภาพด้วย ในการที่จะขุดหาเพชรในพระพุทธศาสนา เอามาประดับประดาไว้กับเนื้อกับตัว.

เพชรแท้ของพุทธบริษัท

พุทธบริษัท ไม่ต้องไปซื้อหาเพชรราคาแสนราคาล้านจากต่างประเทศ มาแขวนให้หนักคอดอก; มันหนักคอเปล่าๆ ไม่ช่วยดับทุกข์ แล้วยังแถมจะเพิ่มทุกข์. แต่ถ้ามีเพชรของพระพุทธเจ้า คือความรู้ หรือเครื่องเตือนให้มีความรู้อยู่ตลอดเวลา ว่าอย่าไปยึดมั่นถือมั่นสิ่งใดๆ โดยความเป็นตัวตนหรือเป็นของของตน นับตั้งแต่ขี้ฝุ่นขึ้นไปเป็นลำดับ ถึงเทวดา ถึงพรหม หรืออะไรก็ตาม จนกระทั่งถึงพระนิพพาน ก็อย่าไปยึดมั่นถือมั่น ว่านิพพานของเรา หรือแม้แต่ของนิพพานเอง.

ขอให้พระนิพพานคงเป็นธาตุตามธรรมชาติ เป็นธรรมธาตุ ในฐานะอสังขตธาตุ ตามแบบของพระนิพพาน ไม่อาจเป็นตัวเรา หรือของเรา หรือของพระนิพพานเอง อย่างนี้ คือ การทำถูกต้องตามพระพุทธประสงค์; ฉะนั้น จงอย่ายึดมั่นถือมั่นอะไร แม้ที่สุดแต่ว่าการถือศีล ก็อย่าถือศีลด้วยความยึดมั่นถือมั่น, แต่สมาทานศีลด้วยสติปัญญา ไม่ใช่ด้วยความยึดมั่นถือมั่น : สมาทานศีลนั้นใช้ได้ แต่ถ้าอุปาทานศีลแล้วบ้าเลย คือมันกลายเป็นสีลัพพตปรามาส หรือสีลัพพตุปาทานไปหมด.

ถ้ามีอุปาทานในศีล ก็จะยกหูชูหางว่ากูมีศีล มึงไม่มีศีล อย่างนี้ก็มี หรือเน้นเรื่องศีลเสียจนเรื่องอื่นไม่มีความหมาย. อย่างนี้มันไม่ได้อะไรเกี่ยวกับศีล กลายเป็นอุปาทานไปหมด ศีลก็เป็นศีลอุปาทาน สมาธิก็เป็นสมาธิอุปาทาน วิปัสสนาก็เป็นวิปัสสนาอุปาทาน เป็นอุปาทานไปหมด ไม่พบของจริง. อุปาทานศีลในชั้นต้นแล้ว ก็ไม่มีศีลที่แท้จริง สมาธิปัญญาก็เลยพลอยไม่มีไปด้วย.

สรุปความ

เอาละ อาตมาดื้อหมอ พูดเกินเวลาที่กำหนดให้มาหลายนาทีแล้ว. หมอบอกว่าไม่ควรพูด แต่ก็มีความเห็นใจที่อุตส่าห์มากันแต่ที่ไกล ขอขอบพระคุณ. ขอกล่าวเป็นคำสุดท้ายว่า ช่วยรับของขวัญวันนี้เอาไป, ของขวัญที่มอบกันในวันล้ออายุปีนี้ คือเสรีภาพ ในการรับถือธรรมะมาประจำชีวิต ด้วยการเข้าถึงหัวใจของพระพุทธศาสนาได้เพชรที่เป็นหัวใจของพระพุทธศาสนา มาประดับอยู่กับเนื้อกับตัว โดยมีหลักธรรมอันสูงสุดและคมเฉียบ กล่าวคือ กาลามสูตรมาเป็นเครื่องมือ เรื่องนี้อยากจะเสนอความเห็นว่า ครูบาอาจารย์แต่กาลก่อน กลัวคนจะฉลาดเกินไป เพราะอาศัยกาลามสูตร ก็ไม่ถูกเอามาทำให้แพร่หลายเหมือนสูตรอื่นๆ ทั้งที่เป็นสูตรสำคัญที่สุดที่จะช่วยให้เกิดผลดี ดังกล่าวแล้ว คือทำพุทธศาสนาให้ยังคงเป็นพุทธศาสนา, ทำพุทธศาสนาให้เป็นศาสนาที่สามารถสู้หน้ากัน กับความก้าวหน้าในโลกแห่งยุคปรมาณู. ไอน์สไตน์ ผู้เป็นปรมาจารย์ทางวิทยาศาสตร์ ได้พูดเป็นหลักไว้ว่า ศาสนาที่จะเหลืออยู่เพียงศาสนาเดียว ในโลกแห่งยุคปรมาณูนั้น คือศาสนาที่ can cope the modern needs, คือสามารถเผชิญหน้ากันได้ กับความต้องการของมนุษย์แห่งยุคซึ่งก้าวหน้าทางวิทยาศาสตร์เรื่อยไป นี่หมายถึงโลกในสมัยที่วิทยาศาสตร์ เป็นไปอย่างสูงสุดแล้ว, ศาสนาจะเหลืออยู่เพียงศาสนาเดียว คือศาสนาที่คงกระพันชาตรี สามารถเผชิญหน้ากันได้ กับความต้องการของคนยุคนั้น; ศาสนานอกนั้น จะค่อยๆ ตกไปจากความนิยม เพราะไม่สามารถเผชิญหน้า.

อาตมา ก็กล้าที่จะพูดว่า พุทธศาสนาสามารถที่จะเป็นเช่นนั้น แต่ก็ไม่อยากจะพูดในทำนองที่พาดพิงไปถึงศาสนาอื่น, และว่า ถ้าพุทธศาสนาจะเป็นเช่นนั้นได้จริง ก็เพราะพวกเราทุกคน ทำให้เป็นเช่นนั้น. แต่ถ้าพวกเรายังชอบตีกระป๋องตีกระแป๋ง ตีระฆังจุดประทัดยิงปืนขับไล่พระราหูอยู่ หรือสวดภาณยักษ์เพื่อป้องกันยักษ์ อยู่ละก็ไม่มีหวัง ไม่มีหวัง ที่จะช่วยให้พุทธศาสนา เป็น ศาสนาที่สามารถเด่นอยู่ได้ในโลกแห่งยุคปรมาณู. นี่ขอให้ช่วยฟังกันให้ดีๆ จนสามารถนำเอาเครื่องมือวิเศษสูงสุด คือ กาลามสูตร มาใช้ขจัดความงมงายชั้นเปลือกนอกออกไปเสียเข้าถึงหัวใจแท้ๆ ของพระพุทธศาสนา เอาเพชรเม็ดนั้นมาประดับประดาไว้ที่เนื้อที่ตัว, มีความเป็นพุทธบริษัทสมบูรณ์ บริสุทธิ์บริบูรณ์จนยกมือไหว้ตัวเองได้.

การยกมือไหว้ตัวเองได้นั้น เป็นสวรรค์ที่แท้จริง ที่นี่และเดี๋ยวนี้, สวรรค์ชนิดอื่นๆ ขึ้นอยู่กับสวรรค์ชนิดนี้. นั่งเล่นนั่งพักในสวรรค์นี้กันสักพักหนึ่ง ต่อไปก็เลิก ไม่ต้องไหว้อะไร แต่อยู่ด้วยความว่างเปล่าจากการกระทำที่เป็นการยึดมั่นถือมั่น, นั่นคือมีชีวิตที่ปราศจากความยึดมั่นถือมั่นโดยประการทั้งปวง.

เอาละ ถ้ายังมีแรงสำหรับพูดตอนบ่าย ก็จะมาพูดอีก. ตอนนี้ขอยุติการบรรยายภาคเช้า เพราะว่ามันเลยเวลาที่หมอกำหนดให้ ไปมากแล้ว ถ้ามันตายเสียก็ดีไป ถ้าไม่ตาย ตอนบ่ายนี้ขอพูดอีกสักครั้ง ตอนกลางคืนไม่รับรอง

 

 

 

คัดจากหนังสือ อสีติสังวัจฉรายุศมานุสรณ์ จาก ท่านพุทธทาสภิกขุ ในหัวข้อ ฟ้าสางทางการขุดเพชร พิมพ์โดย ธรรมทานมูลนิธิ และ สนพ. สุขภาพใจ พิมพ์ครั้งที่ ๙ พฤษภาคม ๒๕๔๐