Site hosted by Angelfire.com: Build your free website today!
RANGSAN
โลกแห่งสมุนไพร
   ::รังสรรค์ ชุณหวรากรณ์::

แก้ว

 

ชื่อวิทยาศาสตร์ Murraya paniculata Jack.
วงศ์ RUTACEAE
ชื่ออื่น ๆ แก้วขาว (ภาคกลาง) แก้วพริก ตะไหลแก้ว (ภาคเหนือ) จ๊าพริก (ลำปาง) แก้วขี้ไก่ (ยะลา)
ลักษณะของพืช เป็นไม้พุ่มขนาดใหญ่ ใบเป็นใบประกอบ แต่ละใบประกอบด้วยใบย่อยจำนวน 3–8 ใบ ที่มีรูปร่างคล้ายรูปไข่ รูปรี หรือรูปสี่เหลี่ยมขนมเปียกปูน ขนาดกว้าง 1–2 ซม. ยาว 2–5 ซม. เนื้อใบเรียบเป็นมัน และสีเขียวเข้ม ดอกออกเป็นช่อออกตามซอกโคนใบที่อยู่บริเวณปลายยอด ก้านช่อดอกยาว ช่อหนึ่งมี 3–18 ดอก ดอกสีขาว กลิ่นหอม มีขนาด 1–2.5 ซม. เป็นดอกสมบูรณ์เพศ ผลรูปรีสีแดงขนาด 1–1.5 ซม.
ส่วนที่ใช้เป็นยา ใบสด
สรรพคุณและวิธีใช้ แก้อาการปวดฟัน ใช้ใบสดตำพอแหลกแช่เหล้าโรง ในอัตราส่วน 15 ใบย่อยหรือ 1 กรัมต่อเหล้าโรง 1 ช้อนชา หรือ 5 มิลลิลิตร เอาน้ำจิ้มบริเวณที่ปวด
การขยายพันธุ์ ใช้การตอนกิ่ง
สภาพดินฟ้าอากาศ ต้นแก้วสามารถจะปลูกในดินเกือบทุกชนิด ยกเว้นดินทรายจัด เพราะการอุ้มน้ำไม่ดีและมีธาตุอาหารน้อย ซึ่งจะทำให้การเจริญเติบโตของต้นแก้วไม่ดี
การปลูก ใช้กิ่งตอนที่มีรากพอควร เอาไปปลูกในกระถางหรือกระบะปลูกเพื่อให้ต้นพืชที่เกิดจากกิ่งตอนมีระบบรากแข็งแรง พอที่จะหาอาหารเลี้ยงลำต้นได้ แล้วนำไปปลูกในหลุมที่มีปุ๋ยรองพื้นบ้าง อาจจะเป็นปุ๋ยคอกหรือปุ๋ยหมัก แล้วรดน้ำทุกเช้าในระยะปลูกใหม่ ๆ
การบำรุงรักษา ควรมีการตัดแต่งกิ่งก้านเสียบ้าง ต้นแก้วเป็นไม้ประดับที่มีทรงพุ่มสวยงาม ทนทานต่อสภาพแวดล้อมไม่ต้องบำรุงรักษามาก เพียงแต่รดน้ำเพียงครั้งคราว อย่าให้พืชขาดน้ำ

 
   
   
 
Copyright 2002 คำนำสารบัญเกี่ยวกับผู้จัดทำโรงเรียนเบญจมราชานุสรณ์จังหวัดนนทบุรี บรรณานุกรม