Blood & Tear
Author
By : Akuma_hana Illustrated
By : Warui Tenshi Territory I กาลครั้งหนึ่งนานมาแล้วเมื่อครั้งที่โลกมนุษย์ยังมีทั้งเทพและปีศาจรวมอยู่รวมกัน โลกถูกแบ่งออกเป็นสามส่วนโดยผู้มีอำนาจสูงสุดที่ถูกเรียกขานว่าพระเจ้า เพื่อแบ่งให้ทั้งสามเผ่าพันธุ์สามารถอยู่ร่วมกันได้อย่างสันติสุข เทพเป็นชนชั้นที่สุขสบายเมื่อพระเจ้าได้ทรงประทานพลังอำนาจให้แด่เทพทุกองค์เพื่อใช้ป้องกันอันตรายจากภัยทั้งมวล มนุษย์ชนชั้นที่อ่อนแอและรักสงบ พระเจ้าทรงประทานผืนดินผืนน้ำที่อุดมสมบูรณ์ที่สุดให้เพียงเพราะมนุษย์ผู้รักสงบมิได้ต้องการพลังอำนาจใดๆ และสุดท้ายเผ่าพันธุ์ปีศาจพระเจ้าทรงประทานผืนดินแห้งแล้งผืนน้ำที่ร้อนรุ่มดุจเปลวเพลิงให้ดังเช่นประสงค์ของเจ้าแห่งปีศาจผู้มีอำนาจสูงสุดในดินแดนแห่งตน
มนุษย์
เทพ และ
ปีศาจ
ดำเนินชีวิตกันอย่างสันติสุขเรื่อยมา
แล้วเมื่อดินแดนที่เคยอุดมสมบูรณ์ไปด้วยป่าไม้และต้นน้ำลำธารของมนุษย์ถูกทำลายลงเพียงเพราะเทพผู้อำนาจเหนือกว่า
มิต้องการอาศัยอยู่ร่วมกับเผ่าพันธุ์อ่อนแอเฉกเช่นมนุษย์
แม้ว่าจะบรรณาการสิ่งของมีค่าและอาหารที่มีอยู่ให้จนอิ่มหนำสำราญเพื่อแลกกับความสงบสุขของพวกตนแต่เหล่าเทพใจเหี้ยมผู้มีพลังอำนาจก็มิได้ละเว้น
นับวันก็ยิ่งเพิ่มความรุนแรงมากขึ้นจากบันดาลให้ฝนตกจนเกิดอุทกภัย
บันดาลลูกไฟให้เผาไหม้ชุมชนหรือแม้แต่ออกไล่ล่าคร่าชีวิตมนุษย์เพียงเพื่อความสนุกสนาน
มนุษย์อ่อนแอและโง่เขลาไม่สามารถต่อสู้พลังอำนาจของเหล่าเทพได้
มนุษย์หลายหมู่บ้านหลายครอบครัวกลายเป็นเหยื่อของความสนุกสนาน
จนกระทั่งถึงวันที่เทพผู้อาจหาญจักได้รับรู้ถึงความน่ากลัวของพลังอำนาจที่แท้จริง....เมื่อเป็นฝ่ายที่ถูกไล่ล่าเช่นเดียวกัน “ ไม่..! ท่านเทพผู้มีพลังอำนาจ...ได้โปรด..ไว้ชีวิตภรรยาและบุตรของข้าด้วยเถิด หากท่านเพียงต้องการความหฤหรรษ์ข้าขอแลกเปลี่ยนชีวิตข้ากับพวกเขาได้หรือไม่...ท่านเทพ ” ชายหนุ่มมนุษย์เอ่ยขึ้นหลังจากที่พบว่าลูกและภรรยาของตนตกอยู่ในเงื้อมือเทพผู้มีจิตใจโหดเหี้ยมยิ่งกว่าปีศาจอย่าง เมทริออส “ หึๆๆ น่าขันมนุษย์ต้อยต่ำเฉกเช่นเจ้ามีอำนาจอะไรมาต่อรองกับเทพอย่างข้า แต่ก็เอาเถอะเห็นแก่ความใจเด็ดของเจ้า ถ้าเจ้าไม่อยากเห็นลูกเมียของเจ้าตาย...อย่างนั้นข้าก็จะปราณีโดยการฆ่าเจ้าก่อนดีหรือไม่? ” เมทริออส เอ่ยเสียงเย็น “ ไม่นะ! ได้โปรดเถิดท่านเทพ ได้โปรดลูกข้ายังอายุน้อยนักมิอาจทำร้ายท่านได้เป็นแน่อย่างน้อยก็ขอให้ปล่อยเขาไป ได้โปรดเถิด ” มนุษย์ผู้น่าสงสารเอ่ยอ้อนวอนอีกครั้ง “ ท่านพี่...อย่าได้ขอร้องอ้อนวอนมันอีกเลย...เทพใจชั่วเฉกเช่น เมทริออส ผู้นี้มิเคยปล่อยใครไปหรอกหากข้าต้องตายข้าก็ขอตายอย่างผู้มีศักดิ์ศรี บุตรของข้าก็เช่นกัน ” เสียงของหญิงสาวร่างสวยงดงามที่นั่งโอบกอดบุตรชายไว้อย่างแนบแน่นดังแทรกขึ้นในระหว่างที่สามีของนางกำลังอ้อนวอนขอความเมตตาให้ตนและบุตรชาย “ หึ...เมียเจ้าช่างบังอาจยิ่งนัก..เจ้ามิรู้หรอกหรือว่ากำลังกล่าววาจาล่วงเกินผู้ใดอยู่ ” เวเนเบอร์ เทพผู้ติดตาม เมทริออส เอ่ยขึ้น “ มีหรือ..ข้าจะมิรู้ว่าสนทนาอยู่กับผู้ใดเทพเวเนเบอร์ เพียงแต่นั่นมิเห็นความสำคัญ ของการบูชาเทพใจอำหิตเฉกเช่นพวกเจ้า ” หญิงสาวตอบกลับ “ เจ้าเป็นผู้ใดกันแน่ถึงมิได้มีความยำเกรงพลังอำนาจแห่งเทพของพวกข้า ” เมทริออส เอ่ยถามด้วยความสงสัย หญิงสาวนางนี้มิได้มีท่าทีหวาดกลัวความตายเฉกเช่นหญิงสาวมนุษย์อื่นๆ ซ้ำยังกล้ากล่าววาจาล่วงเกินเทพอย่างเขาอีกด้วย “ ข้าเป็นเพียงหญิงธรรมดาๆคนหนึ่งที่อาศัยอยู่กับสามีและลูกของข้าอย่างสงบสุขเช่นคนอื่นเท่านั้น ” หญิงสาวตอบ “ ข้าไม่เชื่อ...หากเจ้าเป็นเพียงมนุษย์ผู้อ่อนแออย่างที่เจ้าเอ่ยแล้วไซร้เหตุใดเจ้าจึงไม่กลัวพลังอำนาจของพวกข้าดังเช่นสามีของเจ้า ” “ ข้าเพียงเห็น..ว่าไม่มีเหตุจำเป็นใดที่จะต้องร้องขอความเมตตาจากผู้ที่ตั้งใจมาปลิดชีวิตดังเช่นพวกเจ้า หรือเจ้าคิดว่าที่ข้าพูดมิได้เป็นอย่างเช่นที่เจ้าคิด ”
“
เจ้าเป็นหญิงสาวที่น่าสนใจเสียจริง
เอาล่ะข้าจะไว้ชีวิตเจ้าหากเจ้ายอมกลับไปกับข้าแต่โดยดี
” เมทริออส เอ่ยขึ้น “ ข้ามิได้ต้องการไปกับเจ้า หากข้าต้องตายข้าก็ขอตายอยู่กับสามีและลูกของข้าในบ้านข้า ดีกว่าจะไปมีลมหายใจอยู่กับเจ้าในดินแดนของเจ้า ” หญิงสาวเอ่ยตอบ “ เจ้านี่บังอาจยิ่งนัก...ดี! ในเมื่ออยากตายข้าก็จะให้เจ้าตายสมใจเจ้า ” เมทริออส เอ่ยขึ้นพลางรวบรวมพลังแล้วซัดหมายปลิดชีพนางผู้บังอาจแต่ก็ต้องมีการทำให้ขัดใจเมื่อสามีของนางเอาตัวเข้ารับพลังนั้นไว้แทนนางผู้เป็นดวงใจ “ ไม่...! มิสซาร์ ! ” “ ท่านพี่ ! ” กรีดร้องด้วยความตกใจดังขึ้นเมื่อเห็นร่างของสามีอาบโลหิต “ ฮ่าๆๆ....มนุษย์โง่เขล่าเช่นสามีเจ้าก็มีความกล้าอยู่เหมือนกัน เจ้าควรยินดีที่ได้รู้ มิสซาร์ ” เมทริออสเอ่ยขึ้นหลังจากที่เห็นว่ามนุษย์หนุ่มล้มลงสู่อ้อมกอด “ หึ...ผิดแล้วท่านเทพ..ไม่มีหญิงสาวผู้ใดที่จะร่วมชีวิตกับผู้ชายที่ตนเองไม่รู้จักดีพอเป็นแน่โดยเฉพาะข้า ” หญิงสาวตอบกลับ “ เจ้านี่...เข้มแข็งเสียจริงนะขนาดผู้เป็นที่รักหมดลมหายใจไปต่อหน้าต่อตาข้ายังมิได้เห็นน้ำตาเจ้าสักหยด กลับมีใจมากล่าวเถียงข้าอย่างไม่กลัวเช่นนี้ ” “ คนอย่างข้ามิเคยกลัว...หากต้องตาย ข้าก็ขอตายไปกับความแค้นที่มีต่อเจ้า เมทริออส ...เอเรียส บุตรแห่งข้าเจ้าจงจดจำความตายของพ่อและแม่เจ้าในวันนี้ไว้ให้ตรึงตรา...หากเมื่อแม่สิ้นลมหายใจจงทำอย่างที่แม่สอนเจ้าไว้ลูกรัก...จำไว้..ในยามที่เจ้ารู้สึกอ่อนแอแม่จะอยู่เคียงข้างเจ้าเสมอ ” หญิงสาวกล่าวตอบแล้วจึงหันมาบอกกับบุตรชายในอ้อมแขนด้วยน้ำเสียงนักแน่นก่อนจะคล้องสายสร้อยเส้นหนึ่งให้ “ ระวัง! ท่าน เมทริออส...นางผู้นั้นมิใช่หญิงชาวมนุษย์ธรรมดาๆ ” เวเนเบอร์ กล่าวก่อนจะเอาตัวเข้าบังเจ้านายของตนไว้ “ ทำไม ?เวเนเบอร์ เจ้ากลัวอะไรกับผู้หญิงและเด็กตัวแค่นี้ “ เมทริออส เอ่ยถามผู้รับใช้คนสนิท “ ข้ามิได้กลัวเด็กผู้นั้นหากแต่กลัวพลังอำนาจแห่งนางและสายสร้อยเส้นนั้นเท่านั้น...นางมีนามว่า มิสซาร์ และยังมีสายสร้อยของธิดาคนเดียวของเจ้าแห่งดินแดนปีศาจผู้มีพลังอำนาจเหนือเราหากท่านแตะต้องนางจะก่อให้เกิดภัยอันใหญ่หลวงแก่ท่านและเหล่าเทพทั้งมวลได้ ” เวเนเบอร์ กล่าว “ น่าขำ...ธิดาเพียงคนเดียวของเจ้าแห่งปีศาจอย่างนั้นหรือจะมาครองรักกับมนุษย์ที่อ่อนแอเช่นเจ้าหนุ่มนี่...เจ้าจำผิดเสียแล้วล่ะเวเนเบอร์ “ เมทริออสเอ่ย “ ข้าจำไม่ผิดแน่...เจ้านายแห่งข้า..ข้าว่าอย่า..! อั่ก..กก ” เสียงเอ่ยทัดทานขาดหายไปเนื่องจาก เวเนเบอร์ถูกผู้เป็นนายปล่อยพลังเข้าใส่ “ เหลวไหล..! ข้าเป็นจ้าวแห่งเทพเหตุใดจึงต้องกลัวเกรงพลังอำนาจของผู้หญิงและเด็กตัวแค่นี้ด้วย เวเนเบอร์ข้าขอเตือนหากเจ้ายังคงทัดทานข้า เจ้าเองก็จะหมดลมหายใจไปด้วย!” เมทริออสกล่าวน้ำเสียงเหี้ยมโหด “ แต่ท่าน..ผู้หญิงและเด็กนี่ไม่ใช่มนุษย์เช่นเดียวกับสามีและพ่อพวกเขา นางเป็นปีศาจโดยสายเลือดและลูกของนางย่อมต้องมีสายเลือดปีศาจเช่นเดียวกัน ท่านไม่ควรเข้าใกล้ ” “ หึๆๆ...เวเนเบอร์ แล้วข้าจะพิสูจน์ให้เจ้าเห็นดังเช่นข้า ว่าผู้หญิงและเด็กคนนี้เป็นเพียงมนุษย์ธรรมดาเช่นเดียวกับสามีและพ่อของมันเท่านั้น ” เมทริออส เอ่ยกับผู้รับใช้คนสนิทก่อนที่ลำแสงสีฟ้าดวงใหญ่จะพุ่งเข้าสู่ร่างของแม่ลูกทั้งสอง ในขณะเดียวกัน มิสซาร์ผลักลูกชายออกจากอ้อมกอดแล้วสั่งเสีย “ จงไป! เอเรียส..ลูกข้า ไปหาตาของเจ้า...! “ หญิงสาวรวบรวมกำลังของตัวเองทั้งหมดปล่อยเข้าใส่ร่างของลูกชายได้ก่อนที่พลังแห่ง เมทริออส จะถึงตัวได้เพียงเสี้ยววินาที...แม้ร่างเล็กๆในคลื่นพลังวงแหวนสีแดงเพลิง จะถูกพลังแห่งเทพไปด้วยแต่เพียงไม่นานร่างเล็กในวงแหวนสีแดงก็เลือนหายไปจากที่แห่งนั้นพร้อมๆกับลมหายใจของผู้เป็นมารดา
acacacacacacacac
ณ ดินแดนแห่งเปลวเพลิง....... “ เฮ้! ...ไลการ์ นั่นท่านจะไปยังที่แห่งใดกันน่ะ “ เสียงของผู้ที่วิ่งตามอยู่ข้างหลังถามขึ้น “ ข้าก็เดินเล่นไปเรื่อยนั่นแหละ...ว่าแต่เจ้าเถอะดาเรนวิ่งตามข้าอยู่ได้ทั้งวันนะ..เจ้าเด็กบ้า! ” เสียงทุ้มของปีศาจหนุ่มนามไลการ์ตอบกลับพร้อมๆกับที่ร่างสูงสง่าหยุดยืนรอเด็กหนุ่มร่างเล็กวิ่งเข้ามาหา... “ ก็ข้าเป็นห่วงท่านนี่...จะไปเดินเล่นทำไมกันวันนี้ท่านไม่มีงานทำอีกหรืออย่างไร...เห็นว่าปกติยุ่งเสียจนไม่มีเวลามาเล่นกับข้าเลยมิใช่หรือ...อ๊ะ! หรือว่า..ท่านอู้งาน...ดีล่ะถ้าท่านไม่ให้ข้าไปด้วยข้าจะนำความไปฟ้องท่านพี่ มิลลิน ด้วย! ” เด็กหนุ่มขู่.... มิลลิน หญิงสาวผู้มีสายเลือดปีศาจเพียงครึ่งแต่กลับมีดวงหน้างดงามราวกับดอกไม้แรกแย้มซึ่งก็ไม่ต่างกับน้องชายของนางเท่าใดนัก แม้ดาเรนจะเป็นเพียงเด็กหนุ่มที่เพิ่งโตก็ตาม “ ข้าไม่ได้เลี่ยงงานมาเดินเล่นอย่างที่เจ้าคิดแน่ดาเรน หากเจ้าอยากให้ มิลลิน เห็นว่าเจ้าเป็นปีศาจขี้โกหกก็เชิญเจ้าไปฟ้องนางได้ตามสบาย “ อะไรกันข้ามิได้โกหกเสียหน่อย ก็ท่านบอกข้าเองว่าท่านจะไปเดินเล่นน่ะ ” “ ถูก..ข้าบอกเจ้าว่าข้าจะเดินเล่นแต่ข้ามิได้พูดสักคำว่าข้าเลี่ยงงานมาจริงหรือไม่? “ ไลการ์ กล่าวตอบแล้วก็อดยิ้มขำเจ้าตัวเล็กที่ยืนทำหน้ามู่ทู่ใส่เขาเสียไม่ได้ “ ก็ได้ๆ ข้ายอมแพ้..แต่ ไลการ์ ท่านให้ข้าไปด้วยมิได้หรือ ข้าอยากไปกับท่าน..นะ...นะ ไลการ์ ถ้าท่านให้ข้าไปข้าจะไปขัดขวางความรักของเจ้ากับท่านพี่ มิลลิน ของข้าอีกเลยนะ ” ร่างเล็กกล่าวออดอ้อนพลางเกาะแขนเกาะขาเขามั่วไปหมดจน ไลการ์ อ่อนใจ “ ข้าให้เจ้าไปก็ได้แต่ขอบอกเอาไว้อย่างหนึ่งนะ ดาเรน ที่ข้าให้เจ้าไปด้วยคราวนี้ไม่ใช่เพราะเจ้าเอาพี่สาวของเจ้ามาล่อข้าหรอกนะ เพียงแต่เดินเล่นคนเดียวมันไม่สนุกก็เท่านั้น ” ไลการ์ เอ่ย ชายหนุ่มหาได้ถูกตาต้องใจ มิลลิน พี่สาวของ ดาเรน อย่างที่เจ้าตัวเข้าใจ หัวใจของเขาด้านชาเกินกว่าที่จะรักใครได้อีก...นับแต่นางผู้เป็นที่รักจากดินแดนแห่งนี้ไปเพื่อครองคู่อยู่กับชายหนุ่มชาวมนุษย์ผู้แสนดีคนนั้น ไลการ์
และ ดาเรน
เดินคุยกันมาเรื่อยๆจนถึงริมแม่น้ำสายใหญ่
สีแดงสดราวกับกระแสโลหิตของมันทำให้เขานึกถึงนางผู้เป็นที่รักเสมอไม่ว่ากาลเวลาจะล่วงเลยไปนานเท่าใด ‘ ไลการ์ ข้ามีบางสิ่งที่ต้องบอกเจ้า...เรื่องการครองคู่ของเราทั้งสองที่ท่านพ่อจัดการให้ข้ามิอยากให้มันเป็นไป เจ้าคิดเช่นเดียวกับข้าหรือไม่?’ เสียงกังวานใสของหญิงสาวผู้มีความงดงามที่สุดในดินแดนแห่งเปลวเพลิงเอ่ยขึ้น ‘ เพราะเหตุใด? เจ้าจึงเอ่ยเช่นนั้น มิสซาร์ ’ ‘ เจ้ารู้ดีอยู่แล้วไลการ์ว่าข้ามิได้ต้องใจเจ้าดังเช่นชายหนุ่มทั่วไป ...ความรักของข้าที่มอบให้เจ้านั้นยิ่งใหญ่กว่ามากนัก พี่ชายข้า ‘ มิสซาร์ เอ่ยต่อ ‘ แต่ข้ามิได้มองเจ้าเป็นแค่น้องสาว...มิสซาร์...ข้าปรารถนาและรอคอยวันนี้มาชั่วชีวิต ‘ ชายหนุ่มเอ่ยพลางเอื้อมมือไปกอบกุมมือเรียวสวยไว้แนบอก ‘ ไลการ์ ...ข้านั้นก็ปรารถนาที่จะรักดังเช่นเจ้ารักข้าหากแต่ความจริงแล้วความรู้สึกภายในจิตใจหาได้บังคับกันได้อย่างเช่นนั้นไม่...พี่ข้า...หัวใจของข้าได้มอบให้แก่มนุษย์ผู้นั้นไปเสียแล้ว ‘ ไลการ์พอจะจำได้ชายหนุ่มที่เป็นแพทย์ผู้เชี่ยวชาญเรื่องสมุนไพรที่ถูกส่งตัวมารักษามิสซาร์ เมื่อครั้งนางป่วยเป็นโรคประหลาด ‘ ข้าเข้าใจเจ้าดี มิสซาร์ ข้าจะไปยกเลิกการครองคู่กับท่าน ซารัค เดี๋ยวนี้ ‘ ชายหนุ่มเอ่ยพลางลุกขึ้น ‘ ช้าก่อนไลการ์ ท่านมิต้องรีบร้อน...ข้าอยากให้ท่านนั่งอยู่ตรงนี้กับข้าอีกสักครู่จะได้หรือไม่ ‘ มิสซาร์ เอ่ยพลางรั้งแขนแข็งแกร่งของผู้ที่เป็นดังพี่ชายของตนไว้ ‘ ข้าอยากจดจำความใจดีของท่านไว้ให้มากที่สุด ‘ มิสซาร์ กล่าวก่อนดวงหน้างดงามราวภาพวาดจะซบลงเบาๆกับลาดไหล่แข็งแกร่งของชายหนุ่ม...หลังจากนั้นไม่นานนางก็จากไป ‘ มิสซาร์.....’ ชายหนุ่มเผลอครางชื่อของนางผู้เป็นที่รักออกมาเมื่อคิดถึงเหตุการณ์ในอดีตของตน “ หือ?...อะไร? ไลการ์ ท่านว่าอะไรนะข้าไม่ทันได้ฟัง ” เด็กหนุ่มเอ่ยถาม “ เปล่า...ไม่มีอะไรข้าแค่นึกถึงอดีตเพลินไปหน่อย ” ไลการ์ ตอบอย่างไม่ใส่ใจนัก “ เอ๊ะ!? นั่นอะไรน่ะ...ไลการ์ ! ท่านดูนั่นสิพวกภูตเหล่านั้นสิกำลังรุมอะไรกันอยู่ก็ไม่รู้ ” ดาเรนร้องเรียก อีกฝ่ายอย่างร้อนใจ เด็กหนุ่มกลัวว่าคนที่ถูกรุมล้อมด้วยภูตชั้นต่ำเหล่านั้นจะเป็นมนุษย์ที่พลัดหลงเข้ามาในดินแดนแห่งนี้เพียงเพราะหนีการล่าไล่ของเหล่าเทพผู้กระหายเลือดและสงคราม หากแต่การหลบหนีเข้ามาในดินแดนแห่งปีศาจก็ เปรียบเสมือนการหนีเสือปะจระเข้ เพราะไม่ว่าผู้ได้ก็ตามที่พลัดหลงเข้ามาถ้าไม่โดนภูตชั้นต่ำจับกินเป็นอาหารก็อาจจะตายเพราะทนกับสภาพแห้งแล้งของที่นี่ไม่ได้ “ หยุดนะพวกเจ้า ! เหตุจึงทำกับเด็กเช่นนี้ ” เด็กหนุ่มทรุดนั่งดูอาการของเด็กชายร่างเล็กที่เต็มไปด้วยรอยขีดข่วนหากแต่เมื่อหงายหน้าของเด็กชายขึ้นดูก็ยิ่งใจหาย ใบหน้าเล็กถูกชโลมไปด้วยเลือด อาจจะเป็นเพราะบาดแผลบริเวณตาข้างซ้ายนี่ก็เป็นได้ “ มิได้ครับ...ท่าน ดาเรน พวกข้าและลูกๆออกมานั่งเล่นกันที่ริมแม่น้ำอยู่ดีๆก็มีลำแสงประหลาดตกลงมาจากฟากฟ้าทางด้านนี้ พวกข้าจึงเดินมาดูกันให้แน่ใจว่าเป็นอะไร แต่พวกข้าก็ทำได้แค่ดูอยู่ห่างๆเท่านั้นเพราะสร้อยเส้นนั้นจะเปล่งลำแสงคลุมร่างของเด็กคนนั้นไว้ตลอดเวลา
“ หือ ?ไลการ์
ท่านดูสิ...นี่สร้อยอะไรข้าว่ามันดูคล้ายกับสร้อยของท่าน
ซารัค
เลยนะหากแต่พลอยสีแดงเข้มเม็ดนี้จะดูเล็กกว่าเท่านั้น
” ดาเรน
เอ่ยขณะที่กำลังจะถอดสร้อยออกจากร่างเล็กเพื่อให้อีกฝ่ายดู “ อย่า ! ดาเรน...อย่าแตะต้องมัน ! ” เปรี้ยงงงงงง!!!...เสียงดั่งฟ้าฟาดลงกลางร่าง ความเจ็บปวดแล่นไปทั่วร่าง ดาเรน ฟุบลงกับร่างเล็กที่ตนประคองไว้ เมื่ออัญมณีสีแดงเข้มที่ประดับอยู่บนสร้อยเส้นนั้นเปล่งลำแสงขนาดใหญ่เข้าใส่ร่าง ไลการ์ เข้าประคองร่างเพรียวบางของดาเรนไว้ ภาพที่เห็นนั้นทำให้ความรู้สึกบางอย่างในส่วนลึกของจิตชัดเจนขึ้นเป็นเท่าตัว “ ดาเรน ! เจ้าได้ยินข้าหรือไม่.. ดาเรน ! ” เจ้าของร่างสูงใหญ่เขย่าร่างเพรียวบางในอ้อมกอดเบาๆเพราะกลัวจะบอบช้ำไปมากกว่านี้ ลำแสงสีม่วงเย็นถูกปล่อยเข้าสู่ร่างเพื่อบรรเทาอาการบาดเจ็บของ ดาเรน ไม่ให้ลำแสงแห่งเปลวเพลิงเมื่อครู่เผาร่างจนกลายเป็นเถ้าถ่านไปเสียก่อน “ แค่กๆๆ...ไลการ์ ข้า...จ..เจ็บ ” หลังจากที่ ร่างสูงปล่อยพลังรักษาให้เพียงครู่ ดาเรน ก็เริ่มรู้สึกตัวเด็กหนุ่มรู้สึกเจ็บร้าวไปทั้งร่างราวกับโดนเปลวไฟนับร้อยเผาผลาญ “ ข้ารู้...เจ้ามิต้องเอ่ยอะไรแล้ว...ทนเจ็บสักเดี๋ยวข้าจะพาไปรักษา ” ไลการ์ ดีดนิ้วหนึ่งครั้งหลังจากเอ่ยจบเพียงชั่วอึดใจร่างของปีศาจอีกสองตนก็ปรากฏขึ้น “ ครับ...ท่าน ไลการ์ “ “ นำดาเรนไปหาท่าน เบเรีย “ ไลการ์ออกคำสั่ง “ ครับ ” “ เดี๋ยว..ล..ไลการ์ ท่าน..จะทิ้ง..ข้า..อั่ก..ก ” ดาเรน เอ่ยน้ำเสียงอ่อนระโหยมือเล็กเอื้อมรั้งลำแขนแกร่งไว้แม้จะเหลือแรงเพียงน้อยนิด “ ข้ามิได้ทิ้งเจ้า ดาเรน หากแต่ข้ามีหน้าที่สำคัญที่ต้องทำ...พวกเจ้าพาเขาไปได้แล้ว ” ไลการ์เอ่ยกับเจ้าของมือเล็กด้วยน้ำเสียงห่วงใยก่อนจะหันไปสั่งผู้ติดตามของตน “ มิสซาร์ ...” ไลการ์ ครางในลำคอเบาๆขณะที่เข้าไปอุ้มเด็กชายร่างเล็กขึ้นแล้ว ร่างของทั้งสองก็หายไปพร้อมกับลำแสงสีม่วงเข้ม
acacacacacacacac
ณ ดินแดนแห่งเทพ... “ ท่าน เมทริออส “ หญิงสาวนางหนึ่งเอ่ยเรียกขณะที่เจ้าของนามกำลังจะเข้าพักยังห้องของตน “ มีอะไร? ” เมทริออส เอ่ยถาม “ ท่านคานาเรียให้กำเนิดบุตรชายองค์ที่สองแห่งท่านแล้วเจ้าค่ะ ” หญิงสาวกล่าว “ ฮ่าๆๆ...หากเป็นความจริงวันนี้คงจะเป็นวันที่ดีที่สุดของชีวิตข้า...ว่าแต่ยามนี้เมียและลูกข้าอยู่ที่ใด ” เมทริออส เอ่ยอย่างอารมณ์ดี “ อยู่ในห้องบรรทมเจ้าค่ะ ” หญิงสาวตอบแล้วหันกลับเดินนำทาง “ เจ้าเป็นอย่างไรบ้างคานาเรียยอดรักของข้า ” เมทริออส เอ่ยถามนางผู้เป็นดั่งดวงใจที่นอนอยู่บนเตียงอย่างอ่อนแรง “ ข้าหาเป็นอะไรไม่...ลูกของเรารอท่านอยู่ ” นางตอบแล้วพยักหน้ากับแพทย์ผู้ทำคลอด “ นี่หรือลูกข้า...ฮ่าๆๆ หน้าตาช่างงดงามนัก...ดังเจ้าผู้เป็นแม่ “ เมทริออส กล่าวด้วยน้ำเสียงยินดีทารกในห่อผ้าที่ถูกส่งเข้าสู่อ้อมแขนช่างน่าถะนุถนอมยิ่งนัก “ แล้วนี่...ครอมเวลไปไหนเสียล่ะ ทำไมไม่มาดูน้องด้วยกับข้า ” เมทริออส เอ่ยถามเมื่อไม่เห็นแม้เพียงเงาของบุตรชายคนแรก “ ท่านครอมเวล...ออกไปเรียนการใช้พลังกับท่าน โรซาน่าเมื่อครู่เจ้าค่ะ ” หญิงสาวคนเดิมกล่าวรายงาน “ ออ..นั่นสินะข้าลืมไป...” “ เมทริออส... “ “ มีอะไรหรือ...ยอดรัก...ออข้าคงลืมขอบใจเจ้าที่ให้บุตรชายที่น่ารักเช่นนี้แก่ข้าสินะ ” เทพหนุ่มกล่าวก่อนก้มลงจุมพิตหน้าผากชื้นเหงื่อของภรรยาด้วยความรัก “ ท่านผิดแล้ว...สามีข้าท่านมิได้ลืมขอบคุณข้าหากแต่ท่านลืมตั้งชื่อลูกของเรา ” คานาเรีย เอ่ยหยอกเย้า
“ อา...ใช่สิข้าก็ยินดีจนลืมไป
เจ้าอยากมีนามว่าอะไรลูกข้า..ไหนบอกบิดาเจ้าให้ชื่นใจหน่อยซิ
” เมทริออสเอ่ยถามทารกในอ้อมแขนที่ยังหลับใหลอยู่อย่างอ่อนโยน “ อนาเอล เจ้าว่าเหมาะสมหรือไม่ยอดรัก ? “ เมทริออส เอ่ยถามความเห็น “ สามีของข้า...ท่านมักคิดดั่งใจข้าคิดเสมอ ” นางตอบแล้วยิ้มให้อย่างอ่อนโยน
“ งั้นดี...ประกาศออกไปให้ได้รู้และร่วมยินดีกับข้าโดยเท่ากันว่า
บุตรชายที่สองแห่งข้ามีนามว่า... ‘อนาเอล’...”
Territory II... : Coming Soon Special Thank: Naki A and AJ. Please Coment Blood & Tear Click here
|