Site hosted by Angelfire.com: Build your free website today!


7-13 สิงหาคม 2547: การแสดงอุปรากรจีนใหหนำเนื่องในโอกาสเฉลิมฉลอง 72 พรรษาพระราชินี

            ในโอกาสเฉลิมฉลองครบ 6 รอบ หรือ 72 พรรษาของสมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินีนาถ สมาคมใหหนำแห่งประเศไทย ได้จัดการแสดงอุปรากรจีนใหหนำ (คณะที่ดีที่สุดจากเกาะใหหนำ) ให้ชาวไทยเชื้อสายจีนและคนทั่วไปได้ชมฟรีเป็นเวลา 7 วัน ณ สมาคมใหหนำแห่งประเทศไทย อีกทั้งได้มีการนำเงินบริจาคขึ้นทูลเกล้าถวายแด่สมเด็จพระนางเจ้า พระบรมราชินีนาถ อีกด้วย

8 พฤษภาคม 2547: การประชุมชาวใหหนำภาคเหนือสัญจร ครั้งที่ 16 ณ โรงแรมพิษณุโลกธานี

            องค์กรใหหนำที่เดินทางมาประชุมคราวนี้ทั้งหมด 11-12 องค์กร ดังที่ทราบกันดีแล้ว
            คุณวรรณี ด่านสว่าง นายกสมาคมไหหลำภาคเหนือแห่งประเทศไทย สมัยที่ 41 ประธานที่ประชุม ได้แจ้งให้ที่ประชุมทราบว่า จะมีการสร้างศาลเจ้าแม่ทับทิมของจังหวัดพิษณุโลกหลังใหม่แทนหลังเก่าที่ชำรุดทรุดโทรมมากแล้ว ด้วยงบประมาณ 5 ล้านบาท ส่วนวาระการประชุมที่สำคัญในครั้งนี้ ได้แก่ 1) การสอนภาษาจีนของสมาคมและชมรมใหหนำในภาคเหนือ โดยได้รับเงินสนับสนุนส่วนหนึ่งจากสมาคมใหหนำแห่งประเศไทย ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้วในหลายจังหวัด เช่น เชียงใหม่ ลำพูน ลำปาง พิษณุโลก นครสวรรค์ เป็นต้น 2) การจัดค่ายเยาวชนใหหนำภาคเหนือ ซึ่งได้ดำเนินการไปแล้ว 2 ครั้ง คือ ที่ลำปางและลำพูน ขณะนี้กำลังเตรียมการสำหรับครั้งที่ 3 ที่เชียงใหม่
           สืบเนื่องจากการประชุมสัญจรที่เชียงใหม่ เกี่ยวกับวัฒนธรรมและมาตรฐานพิธีกรรมของชาวใหหนำ สมาคมใหหนำแห่งประเศไทย โดยคุณอภิชาติ อาสภวิริยะ ได้กล่าวกับที่ประชุมว่า มีดำริจะจัดทำซีดีเกี่ยวกับประเพณีต่างๆ ของชาวใหหนำ เช่นการไหว้เจ้า งานศพ แต่งงาน เพื่อแจกจ่ายให้แพร่หลายต่อไป นอกจากนี้ก็มีข้อเสนอแนะจากที่ประชุมว่า สำหรับภาษาถิ่นใหหนำก็เช่นเดียวกัน ควรจะได้มีการอนุรักษ์ไว้เช่นเดียวกับศิลปและวัฒนธรรมอื่นๆ เนื่องจากแม้แต่คนใหหนำบนเกาะใหหนำเองในปัจจุบันนี้ ก็หันมาพูดภาษาจีนกลางมากกว่าภาษาใหหนำแล้ว จึงควรสังวรไว้ ไม่ควรให้สูญหายไป เพราะถ้าปราศจากภาษาใหหนำแล้ว ก็จะไม่มีคนใหหนำอีกต่อไป

23-25 เมษายน 2547: ค่ายเยาวชนใหหนำภาคเหนือครั้งที่ 2 ที่ลำพูน
คลิกที่นี่เพื่อดูวิดีโอ

            ค่ายเยาวชนใหหนำครั้งที่ 2 ของชมรมเยาวชนใหหนำภาคเหนือ จัดขึ้นที่จังหวัดลำพูน มีวัตถุประสงค์เพื่อกระชับความรัก สามัคคี และการเรียนรู้ขนบธรรมเนียมประเพณีและภาษาจีน ในหมู่เยาวชนใหหนำจากจังหวัดต่างๆ ในภาคเหนือให้มากยิ่งขึ้น
            รศ. ดร. ศิริชัยย์ ชัยชนะวงศ์ จากสมาคมใหหนำแห่งประเทศไทย ได้ให้เกียรติมาเป็นวิทยากร ตลอดจนผู้หลักผู้ใหญ่ของจังหวัดลำพูน โดยเฉพาะคุณวิจิตร ภู่เจริญ ประธานชมรมใหหนำลำพูน ท่านผู้ว่าราชการลำพูน และกรรมการองค์กรใหหนำต่างๆ ในภาคเหนือหลายท่าน ก็ให้เกียรติมาร่วมงานด้วย
            มีเยาวชนเข้าร่วมโครงการฯ ทั้งหมด 80 คน หลายรุ่นอายุ คือ ตั้งแต่ระดับประถมจนถึงอุดมศึกษา มีกิจกรรมหลากหลาย เช่น พาชมโรงงานในนิคมอุตสาหกรรมภาคเหนือ ดูหมีแพนด้า ไหว้ครูบาฯ พานั่งรถสามล้อชมเมือง การฝึกพูดภาษาจีน การเรียนรู้ขนบธรรมเนียมประเพณีจีน และการร้องรำทำเพลง เป็นต้น
           ผลประเมินโครงการนี้ พบว่าสำเร็จเป็นที่พอใจของเยาวชนเช่นเคย คุณสุวิทย์ ลิมวรศักดิ์ อดีตนายกสมาคมใหหนำเชียงใหม่สมัยที่ 2 ได้ถือโอกาสนี้ มอบเงินจำนวนสองหมื่นบาทแก่ชมรมเยาวชนใหหนำภาคเหนืออีกด้วย ครั้งต่อไป พบกันที่จังหวัดเชียงใหม่ครับ

23 มีนาคม 2547: ขอแสดงความเสียใจต่อการจากไปสำหรับคุณพ่อของอาจารย์สุวัฒน์
คลิกที่นี่เพื่อดูสไลด์วิดีโอ

            สมาคมใหหนำเชียงใหม่ นำโดยนายกฯ สมศรี ศรีมนัส และประธานศาลเจ้าแม่ทับทิมเชียงใหม่ คุณสุวรรณา เมฆประภามงคล ได้เดินทางไปคาราวะศพนายตั้นกุ่ย แซ่อุ่ย คุณพ่อของอาจารย์สุวัฒน์ รัตนรณชาติ รองเลขาธิการสมาคมใหหนำเชียงใหม่และศาลเจ้าแม่ทับทิมเชียงใหม่ ที่จังหวัดอุตรดิตถ์ เมื่อวันที่ 23 มีนาคม ศกนี้ สร้างความปลาบปลื้มเป็นอย่างยิ่งแก่ลูก หลาน และเหลน ของผู้ล่วงลับ

21 มีนาคม 2547: สมาคมใหหนำเชียงใหม่ สมัยที่ 3 และศาลเจ้าแม่ทับทิมเชียงใหม่ สมัยที่ 20

            สมาคมชาวใหหนำสามัคคีเชียงใหม่ ได้เปลี่ยนชื่อเป็นสมาคมใหหนำเชียงใหม่ พร้อมกับเลือกตั้งใด้คุณสมศรี ศรีมนัส (อาดีตประธานศาลเจ้าฯ สมัยที่ 19) เป็นนายกสมาคมฯ สมัยที่ 3 และคุณสุวรรณา เมฆประภามงคล (อาดีตเลขาธิการศาลเจ้าฯ สมัยที่ 19) เป็นประธานศาลเจ้าฯ สมัยที่ 20 และได้จัดให้มีงานสถาปนาคณะกรรมการสมาคมและศาลเจ้าแม่ฯ ณ ศาลเจ้าแม่ทับทิมเชียงใหม่ อย่างสมเกียรติและยิ่งใหญ่เมื่อวันที่ 21 มีนาคม ศกนี้

6 กุมภาพันธ์ 2547: ชาวใหหนำภาคเหนือเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อการจากไปของ คุณชวลิต จารุทรรศนกุล

            คุณชวลิต จารุทรรศนกุล (เจียง ขี่ พวน) นายกสมาคมใหหนำแห่งประเทศไทย สมัยที่ 28 ได้เสียชีวิตเนื่องจากอาการไตวาย เมื่อวันที่ 6 กุมภาพันธ์ 2547 พวกเราองค์กรใหหนำในภาคเหนือทุกองค์กร ขอแสดงความเสียใจอย่างสุดซึ้งต่อครอบครัว จารุทรรศนกุล และไคร่ขอให้ดวงวิญญานของ คุณชวลิต จารุทรรศนกุล จงเป็นสุขและไปจุติยังสรวงสวรรค์ชั้นวิมานด้วยเทอญ
            คุณชวลิต จารุทรรศนกุล นับได้ว่าเป็นบุคคลตัวอย่างท่านหนึ่งของชาวใหหนำ เพราะท่านเป็นผู้ที่ได้บำเพ็ญตนให้เป็นประโยชน์ต่อชาวใหหนำทั้งหลายทั้งมวล ตลอดจนสังคมส่วนรวมโดยทั่วไป เป็นเวลายาวนาน และพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ได้ทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯ พระราชทานดินฝังศพ เป็นกรณีพิเศษ แด่คุณชวลิต จารุทรรศนกุล พวกเราชาวใหหนำทุกคน รู้สึกปลาบปลื้มด้วยกับครอบครัว จารุทรรศนกุล ที่ได้รับพระราชทานเกียรติยศอันสูงยิ่งครั้งนี้

14 ธันวาคม 2546: การประชุมชาวใหหนำภาคเหนือสัญจร ครั้งที่ 15 ณ โรงแรมดิเอ็มเพรส เชียงใหม่
คลิกที่นี่เพื่อดูวิดีโอการประชุม

            องค์กรใหหนำที่เดินทางมาประชุมคราวนี้ทั้งหมด 11 องค์กร ได้แก่ สมาคมใหหนำแห่งประเทศไทย สมาคมใหหนำนครลำปาง สมาคมใหหนำนครสวรรค์ สมาคมใหหนำพิจิตร สมาคมใหหนำพะเยา สมาคมใหหนำภาคเหนือแห่งประเทศไทย ชมรมชาวใหหนำลำพูน ชมรมชาวใหหนำอุตรดิตถ์ ชมรมชาวใหหนำสุโขทัย ศาลเจ้าแม่ทับทิมสากเหล็ก ศาลเจ้าแม่ทับทิมตะพานหิน
            สมาคมชาวใหหนำสามัคคีเชียงใหม่ ได้จัดการต้อนรับผู้เข้าร่วมประชุมอย่างสมเกียรติ โดยพาไปชมหมีแพนด้าที่สวนสัตว์เชียงใหม่ และชมเวียงกุมกาม เสร็จแล้วพาชมการแสดงพร้อมกับรับประทานอาหารสไตล์ขันโตกตามแบบฉบับล้านนา ซึ่งสร้างความประทับใจแก่ผู้เดินทางมาร่วมประชุมทุกท่าน
            วาระการประชุมที่สำคัญได้แก่ การรายงานการดำเนินการจัดค่ายเยาวชนใหหนำภาคเหนือ ครั้งที่ 1/2546 ที่จังหวัดลำปาง โดยคุณนิทัศน์ เยาวสกุลมาศ ซึ่งสรุปได้ว่า ได้ผลเป็นที่น่าพอใจแก่ทุกฝ่าย สิ่งที่ต้องคำนึงถึงในการดำเนินการครั้งต่อไป ก็คือการจัดกลุ่มเยาวชนให้เหมาะสมกับแต่ละกิจกรรม คุณอนุวัฒน์ ปัญจมาภิรมย์ ประธานคณะกรรมการจัดตั้งชมรมเยาวชนภาคเหนือ ได้จัดให้มีการเลือกตั้งประธานชมรมเยาวชนภาคเหนือ และปรากฏว่า นายอาทิตย์ ภู่สว่าง ของชมรมชาวใหหนำลำพูน ได้รับการเลือกตั้งให้เป็นประธานฯ
            เรื่องที่สองได้แก่ การสอนภาษาจีน ที่สมาคมใหหนำแห่งประเทศไทยให้การสนับสนุนค่าจ้างครูสอนนั้น มีบางองค์กรที่ไม่ทราบเรื่อง และบางองค์กรได้ดำเนินการไปแล้ว มีผู้เสนอแนะให้เสริมการพูดใหหนำเข้าไปในการสอนจีนกลางด้วย ทั้งนี้เพื่อเป็นการอนุรักษ์ภาษาถิ่น (dialect) ของเรา ส่วนเรื่องสุดท้ายก็คือ การกำหนดมาตรฐานวัฒนธรรมและประเพณีต่างๆ ของชาวใหหนำ ซึ่ง คุณเจริญ พัวศิริ (พัวเต็นหล่วน) แห่งจังหวัดพะเยา ได้จัดพิมพ์เอกสาร เรื่อง "ประเพณีการไหว้เจ้าของคนใหหนำ" นำมาให้กับที่ประชุม และสมาคมชาวใหหนำสามัคคีเชียงใหม่ได้จัดทำสำเนาแจกจ่ายไปยังองค์กรต่างๆ แล้ว เนื่องจากเป็นเรื่องใหญ่ จึงต้องมีการปรึกษาหารือกันอย่างละเอียดต่อไปอีก
            ก่อนปิดการประชุม คุณสุวิทย์ ลิมวรศักดิ์ นายกสมาคมชาวใหหนำสามัคคีเชียงใหม่ ได้เสนอแนะว่า สมาคมใหหนำแห่งประเทศไทยควรได้มีการสัญจรไปร่วมประชุมหรือพบปะกับองค์กรใหหนำในภาคอื่นๆ ด้วย ซึ่งสมาคมใหหนำแห่งประเทศไทยตอบว่า ได้ดำเนินการดังที่ว่าอยู่แล้ว

17 ถึง 19 ตุลาคม 2546: ค่ายอบรมเยาวชนใหหนำภาคเหนือครั้งที่ 1 ที่ลำปาง
คลิกที่นี่เพื่อดูรูปงานเปิดค่ายเยาวชน

            ค่ายเยาวชนใหหนำครั้งแรกของชมรมเยาวชนใหหนำภาคเหนือเกิดขึ้นแล้ว โดยจังหวัดลำปางเป็นผู้จัด มีวัตถุประสงค์เพื่อสร้างความรัก สามัคคี และการเรียนรู้ขนบธรรมเนียมประเพณีและภาษาจีน ในหมู่เยาวชนใหหนำจากจังหวัดต่างๆ ในภาคเหนือ
            อุปนายกสมาคมใหหนำแห่งประเทศไทย คุณสะอาด วงศ์วรการ รศ. ดร. ศิริชัยย์ ชัยชนะวงศ์ และที่ปรึกษาฯ คุณอภิชาต อาสภวิริยะ ตลอดจนรองผู้ว่าราชการจังหวัดลำปางให้เกียรติมาเปิดงาน
            มีเยาวชนเข้าร่วมโครงการฯ ทั้งหมดร้อยกว่าคน แยกออกเป็น 3 กลุ่ม คือ ระดับประถม มัธยม และอุดมศึกษา มีการจัดวิทยากรมาสอนและฝึกทักษะด้านต่างๆ แก่เยาวชน อาทิ คำศัพท์ที่ใช้ในชีวิตประจำว้นภาษาจีนกลาง ภาษาใหหนำ ประเพณีการไหว้เจ้า การร้องเพลง เล่นสไลเดอร์ กังฟู เป็นต้น และที่สำคัญก็คือ การนำเที่ยวสถานที่สำคัญของจังหวัดลำปาง อาทิ โรงงานผลิตเซรามิค โรงงานผลิตกระแสไฟฟ้าแม่เมาะ วัดศรีชุม วัดพระธาตุลำปางหลวง ศูนย์ช้างไทย การผลิตกระดาษจากมูลช้าง และนั่งรถม้าชมเมืองลำปาง
           พร้อมกันนี้ก็ได้มีการจัดตั้งคณะกรรมการชมรมเยาวชนใหหนำภาคเหนือขึ้นมาทำหน้าที่แทนคุณอนุวัฒน์ ปัญจมาภิรมย์ ประธานก่อตั้งชมรมฯ โดยมีเยาวชนจากจังหวัดลำพูนได้เป็นประธาน และตัวแทนเยาวชนจากจังหวัดอื่นๆ เป็นคณะกรรมการ
           ผลประเมินโครงการนี้ พบว่าสำเร็จเป็นที่น่าพอใจ รวมทั้งเรื่องอาหารการกินและที่พักที่สะอาดและอร่อยถูกใจเยาวชน

30 สิงหาคม 2546: การประชุมชาวใหหนำภาคเหนือสัญจร ครั้งที่ 14 ณ บึงสีไฟจังหวัดพิจิตร
คลิกที่นี่เพื่อดูรูปการประชุม

            การประชุมสัญจรครั้งนี้ มีคณะกรรมการของสมาคมใหนำแห่งประเทศไทยจำนวนหลายท่าน โดยการนำของท่านนายกสมาคมฯ คุณชวลิต จารุทรรศนกุล เข้าร่วมประชุมด้วย
           คุณอนุวัฒน์ ปัญจมาภิรมย์ ประธานการประชุมสัญจรครั้งนี้และประธานคณะกรรมการจัดตั้งชมรมเยาวชนภาคเหนือ สรุปว่าจะมีการจัดการประชุมและอบรมเยาวชนปีละ 2 ครั้ง โดยครั้งแรกจะเริ่มที่จังหวัดลำปางในเดือน ตุลาคม 2546 และครั้งที่สองซึ่งอาจเป็นที่เชียงใหม่หรือไม่ก็ที่นครสวรรค์ ดังนั้น ขอให้ทุกจังหวัดในภาคเหนือได้ส่งรายชื่อพร้อมประวัติของเยาวชน ไปยังท่านให้เรียบร้อยภายในเดือนกันยายน 2546
           อนึ่งที่ประชุมได้เสนอแนะเรื่องการกำหนดอายุของเยาวชนว่า ควรจะเริ่มที่ 8 ปีแทนที่จะเริ่มที่ 16 ปีตามที่กำหนดไว้แล้ว และคณะกรรมการของสมาคมใหหนำแห่งประเทศไทย ได้ร่วมกันบริจาคเงินสมทบกองทุนเยาวชนภาคเหนือ เป็นจำนวนเงิน 105,000 บาท

9 มิถุนายน 2546: จดหมายเปิดผนึกถึงนายกสมาคมใหหนำแห่งประเทศไทย

เรื่อง ปัญหาความขัดแย้งในสมาคมใหหนำแห่งประเทศไทย

เรียน คุณชวลิต จารุทรรศนกุล

            ก่อนอื่น กระผมขอแสดงความยินดีต่อท่าน ในโอกาสที่ได้รับเลือกตั้งให้ดำรงตำแหน่งนายกสมาคมใหหนำแห่งประเทศไทย สมัยที่ 28 นี้ และขอกราบอวยพรให้ท่านประสบแต่ความเจริญรุ่งเรืองยิ่งๆ ขึ้นตลอดไป มา ณ โอกาสนี้ด้วย

            กระผมในฐานะลูกหลานจีนเชื้อสายใหหนำคนหนึ่ง ซึ่งมีความปรารถนาดีต่อสมาคมใหหนำแห่งประเทศไทยตลอดมา อีกทั้งได้สละเวลาว่างทำประโยชน์ให้กับองค์กรใหหนำเชียงใหม่ในขณะนี้ด้วย มีความประสงค์ใคร่เรียนต่อท่านนายกสมาคมฯ ดังนี้

            1) เนื่องจากกระผมได้ทราบ เกี่ยวกับความขัดแย้งในสมาคมใหหนำแห่งประเทศไทย ทั้งที่เกิดขึ้นนานมาแล้วและที่เกิดขึ้นใหม่ และเห็นว่าปัญหาดังกล่าว ยังมิได้ถูกแก้ไขไปในทางที่ดีขึ้น ซึ่งหากปล่อยให้เป็นเช่นนี้ต่อไปเรื่อยๆ ก็จะยิ่งทำลายเกียรติยศและชื่อเสียงของสมาคมฯ ที่บรรพบุรุษของเราได้สร้างสมมาด้วยความอุตสาหะและเสียสละเป็นอย่างยิ่ง อันเป็นสิ่งไม่พึงปรารถนาสำหรับพวกเราทุกคน กระผมจึงใคร่วิงวอนขอท่านได้โปรดดำเนินการทุกวิถีทาง เพื่อแก้ไขปัญหาดังกล่าว ให้เบาบางลงให้จงได้ หาไม่เช่นนั้นแล้ว ความหายนะก็จะตกแก่สมาคมฯ และพวกเราทุกคนในที่สุด

            2) กระผมมีความเชื่อมั่นว่า ท่านนายกสมาคมฯ ซึ่งมีจิตใจโอบอ้อมอารีย์และเมตตาเป็นพื้นฐานอยู่แล้ว (จากการที่กระผมได้แอบสังเกตกิริยามารยาทของท่าน เมื่อคราวมางานต้อนรับท่านผู้ว่าเกาะใหหลำ ที่สมาคมใหหนำแห่งประเทศไทย เมื่อปีที่แล้ว) จะยอมเสียสละทุกประการเพื่อแก้ไขปัญหาส่วนรวมดังกล่าวนั้น โดยไม่คำนึงถึง 'พวกเขา-พวกเรา' เพราะจริงๆ แล้ว ทุกคนก็คือพวกเราหรือใหหนำ

            จึงเรียนมา เพื่อโปรดพิจารณาและดำเนินการตามแต่จะเห็นสมควร

                                        (รศ. ดร. สุวัฒน์ รัตนรณชาติ)

                                        รองเลขาธิการสมาคมชาวใหหนำสามัคคีจังหวัดเชียงใหม่

22 พฤศจิกายน 2545: การแสดงนาฏศิลป์จากเกาะไหหลำที่เชียงใหม่

            สมาคมชาวใหหนำสามัคคีและศาลเจ้าแม่ทับทิมจังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกับสมาคมใหหนำแห่งประเทศไทย นำคณะนาฏศิลป์จีนจากเกาะไหหลำมาแสดง ณ หอประชุมโรงเรียนยุพราช ในวันศุกร์ที่ 22 พฤศจิกายน 2545 เวลา 18:30 น. ทั้งนี้ เพื่อนำรายได้ขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายแด่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ ในวโรกาสมีพระชนมายุครบ 75 พรรษา บัตรชมการแสดงราคา 100 และ 200 บาท สำรองที่นั่งและซื้อบัตรได้ที่ศาลเจ้าแม่ทับทิมฯ และจากคณะกรรมการสมาคมและศาลเจ้าฯ เชียงใหม่
(หมายเหตุ: โครงการนี้ยกเลิก เนื่องจากติดขัดปัญหาหลายประการ)

23 มีนาคม 2546: การประชุมชาวใหหนำภาคเหนือสัญจร ครั้งที่ 13 ณ ศูนย์บริการท่องเที่ยวจังหวัดลำพูน

            มีการปรึกษาหารือในเรื่องโครงการชมรมเยาวชนใหหนำภาคเหนือกันอย่างกว้างขวาง คุณจรัญ เยาวรัตน์ ผู้ให้ความคิดริเริ่มสำหรับโครงการนี้เมื่อ 2-3 ปีก่อน มีความเป็นห่วงถึงความก้าวหน้า เพราะยังไม่เห็นเป็นรูปร่างชัดเจน
            คุณวิจิตร ภู่เจริญ ประธานชมรมชาวใหหนำจังหวัดลำพูน คุณประเสริฐ ภู่พิสิฐ (นายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดลำพูน) และคุณประภัสร์ ภู่เจริญ (นายกเทศมนตรีเมืองลำพูน) เจ้าภาพจัดการประชุมสัญจรครั้งนี้ ฝากให้ช่วยกันรีบดำเนินการให้แล้วเสร็จโดยเร็ว ทั้งนี้ก็เพื่อการสืบทอดเจตนารมณ์ ภาษา และจารีตประเพณีอันดีงามของชาวใหหนำ ให้คงอยู่ตลอดไป

14 กันยายาน 2545: ประชุมก่อตั้งชมรมเยาวชนใหหนำภาคเหนือ  

            ผลการประชุมก่อตั้งชมรมเยาวชนใหหนำภาคเหนือ ซึ่งสมาคมใหหนำลำปางเป็นเจ้าภาพ
จัดการประชุม โดยมี คุณชีชวน ศิรินุวัฒน์ นายกสมาคมใหหนำนครลำปางเป็นประธานการประชุม สรุปได้ ดังนี้

      1) มีผู้เสนอและได้รับการรับรองเป็นเอกฉันท์จากผู้เข้าประชุม ให้คุณอนุวัฒน์ ปัญจมาภิรมย์
นายกสมาคมหอการค้าจังหวัดพิจิตรและกรรมการบริหารสมาคมใหหนำแห่งประเทศไทย เป็นประธาน
กรรมการก่อตั้งชมรมเยาวชนใหหนำภาคเหนือ ส่วนเลขาธิการและเหรัญญิก ให้ประธานเป็นผู้แต่งตั้ง

      2) ให้องค์กรใหหนำในแต่ละจังหวัดภาคเหนือ ส่งตัวแทนจังหวัดละ 2 ท่าน เพื่อเป็นกรรมการ
ก่อตั้งชมรมเยาวชนใหหนำภาคเหนือ

      3) ให้คณะกรรมการดังกล่าว ดำเนินการร่างระเบียบและข้อบังคับสำหรับชมรมเยาวชนใหหนำ
ภาคเหนือ

      4) มีข้อเสนอแนะจากที่ประชุมว่า 'เยาวชน' ควรมีอายุระหว่าง 8 ถึง 25 ปี และในการประชุม
สัญจรใหหนำภาคเหนือทุกครั้ง ควรจัดโปรแกรมกิจกรรมสำหรับตัวแทนเยาวชนด้วย โดยให้แต่ละ
จังหวัดสามารถนำเยาวชน อายุระหว่าง 15 ถึง 25 ปี เข้าร่วมกิจกรรมได้จังหวัดละไม่เกิน 2 คน ทั้งนี้
เพื่อไม่ทำให้จังหวัดเจ้าภาพ ต้องรับภาระค่าใช้จ่ายเรื่องค่าอาหารมากจนเกินไป

11 สิงหาคม 2545: กองทุนชมรมเยาวชนใหหนำภาคเหนือได้แล้ว 3 แสน  

            การประชุมสัญจรองค์กรใหหนำภาคเหนือครั้งที่ 12 เมื่อวันอาทิตย์ที่ 11 สิงหาคม 2545
เวลา 13:30 น. ณ ห้องภูกามยาว 5 มหาวิทยาลัยนเรศวร วิทยาเขตสารสนเทศพะเยา จังหวัดพะเยา
มีคุณสุวิทย์ ด่านพิทักษ์ นายกสมาคมใหหนำพะเยา และคุณเจริญ พัวศิริ รองเลขาธิการสมาคมฯ เป็นเจ้าภาพและผู้ดำเนินการประชุม
            ผลสำคัญจากการประชุมประการหนึ่งก็คือ ได้มีมติให้ดำเนินการจัดตั้งชมรมเยาวชนใหหนำภาคเหนือ โดยคณะของนายกสมาคมใหหนำแห่งประเทศไทยที่เข้าร่วมการประชุมด้วย (ดร.ทรงศักดิ์ คุณเสรี คุณสันติ คุณกำพล) ได้ร่วมกันบริจาคเงิน เพื่อใช้เป็นกองทุนเพื่อจัดตั้งและดำเนินการชมรมเยาวชนฯ รวม 2 แสนบาท
และองค์กรใหหนำจากจังหวัดต่างๆ ในภาคเหนือ ได้ร่วมกันบริจาค รวม 8 หมื่นบาท คุณจรัล เยาวรัตน์
(นายกกิติมศักดิ์ สมาคมใหหนำพะเยา) 2 หมื่นบาท และผู้เข้าร่วมประชุมท่านหนึ่งจากจังหวัดสระแก้ว
5 พันบาท รวมเป็นเงินสำหรับกองทุนที่จะจัดตั้งขึ้นในขั้นต้นนี้ ประมาณ 3 แสนบาท ซึ่งสมาคมใหหนำ
ลำปางจะเป็นเจ้าภาพจัดประชุมครั้งแรกที่จังหวัดลำปาง ในวันที่ 14 กันยายน ศกนี้ เพื่อเลือกตั้งประธาน
คณะกรรมการก่อตั้งชมรมเยาวชนใหหนำภาคเหนือ