Site hosted by Angelfire.com: Build your free website today!


   
 

 

กรุงเทพธุรกิจ ออนไลน์ : เมื่อเวลา 13.50 น. ทหารพรานวิไล อารมณ์ สังกัดกองกำลังทหารพรานที่ 2301 กองร้อยน้ำตกภูละออ อ.กันทรลักษณ์ จ.ศรีสะเกษ เหยียบกับระเบิดขณะไปกระจายวางกำลังที่ภูมะเขือ ซึ่งอยู่ใกล้ ๆ กับจุดข้อพิพาทเพื่อตรึงกำลังและผลักดันให้ทหารกัมพูชา และชาวกัมพูชาบางส่วนที่เข้ามาปักหลักสร้างบ้านอยู่บริเวณเชิงเขาทางขึ้นปราสาทพระวิหารออกจากพื้นที่ โดยแรงระเบิดทำให้ขาขวาท่อนล่างขาด ขณะนี้ถูกนำตัวขึ้นเฮลิคอปเตอร์เพื่อไปรักษาต่อไป ท่ามกลางฝนตกหนัก

 

ทหารไทยโดนกับระเบิดแล้ว แล้วต่อไปใครเป็นคนต่อไป

 

ขอเรียกร้องให้เก็บระเบิด เพื่อความปลอดภัย

ของคนทุกฝ่ายด้วย

ได้โปรดเถิด ใครก็ได้

 

------------------------------------------------------------------------------------------------

ขอให้ประชาคมโลก ได้รับรู้ความรู้สึกของคนไทย เกี่ยวกับ เขาพระวิหาร

ขอให้ท่านโปรดอ่าน ข้อความนี้

ในยุคล่าอาณานิคม ประเทศไทยได้เสียดินแดนให้แก่ฝรั่งเศสรวม 5 ครั้ง เป็นพื้นที่ทั้งสิ้น 481,600 ตารางกิโลเมตร นับตั้งแต่ปลายรัชสมัย พระบาทสมเด็จพระจอมเกล้าฯ จนถึงรัชสมัยของพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าฯ โดยไทยต้องยินยอมเสียดินแดนบางส่วนไป เพื่อรักษาเอกราชและดินแดนส่วนใหญ่ไว้ ทำให้พื้นที่ประเทศไทยเหลืออยู่เพียง 513,600 ตารางกิโลเมตร

ดินแดนที่เสียไปตามลำดับมีดังนี้
1. แคว้นกัมพูชา เมื่อปี พ.ศ. 2410
2. แคว้นสิบสองจุไทย เมื่อปี พ.ศ. 2431 เป็นพื้นที่ 87,000 ตารางกิโลเมตร
3. ดินแดนฝั่งซ้ายแม่น้ำโขง อันได้แก่ ประเทศลาวปัจจุบัน ในพื้นที่เมืองหลวงพระบาง เมืองเวียงจันทร์ และอาณาเขตนครจัมปาศักดิ์ตะวันออก ตลอดจนบรรดาเกาะต่าง ๆ ในแม่น้ำโขง เมื่อปี พ.ศ. 2436 หรือที่รู้จักกันดีคือ ร.ศ. 112 เป็นพื้นที่ 143,000 ตารางกิโลเมตร

4. ดินแดนทางฝั่งขวาของแม่น้ำโขง บริเวณที่อยู่ตรงข้ามเมืองหลวงพระบาง และตรงข้ามเมืองปากเซ เมื่อปี พ.ศ. 2446 เป็นพื้นที่ 62,000 ตารางกิโลเมตร เพื่อแลกกับเมืองจันทบุรี ที่ฝรั่งเศสยึดไว้เมื่อ ร.ศ. 112

5. มณฑลบูรพา ได้แก่ พื้นที่เมืองพระตะบอง เสียมราฐ และศรีโสภณ เมื่อปี พ.ศ. 2449 เป็นพื้นที่ 51,000 ตารางกิโลเมตร เพื่อแลกกับเมืองตราด เกาะกง และเมืองด่านซ้าย พร้อมทั้งอำนาจศาลไทย ต่อคนในบังคับฝรั่งเศส

ต่อมาประเทศอังกฤษและฝรั่งเศส ได้ทำสัญญาเป็นพันธมิตรกับรัสเซีย เพื่อเตรียมรับสงครามโลกครั้งที่ 1 อังกฤษและฝรั่งเศสจึงได้ประชุมพิจารณาปรองดองกัน ในปัญหาข้อพิพาทเกี่ยวกับอาณานิคมโดยทั่วไป สำหรับประเทศไทยนั้นได้ตกลงแบ่งออกเป็น 3 ส่วน

ส่วนที่ 1 เป็นพื้นที่ภาคตะวันออก ตั้งแต่มณฑลนครราชสีมาไปทางตะวันออกทั้งหมด เป็นเขตผลประโยชน์ของฝรั่งเศส
ส่วนที่ 2 เป็นพื้นที่ด้านตะวันตกของมณฑลราชบุรีลงไป เป็นเขตผลประโยชน์ของอังกฤษ
ส่วนที่ 3 คงเหลือเฉพาะพื้นที่ภาคกลางคงเป็นของไทย
สัญญานี้ทำกันเมื่อปี ค.ศ. 1911 แต่เนื่องจากหลังสงครามโลกครั้งที่ 1 มหาประเทศคู่สงคราม     ต่างพากันอ่อนกำลังลงไป นอกจากนี้ การที่ประเทศไทยเข้าร่วมสงคราม โดยอยู่ทางฝ่าย            พันธมิตร ซึ่งเป็นฝ่ายชนะ จึงทำให้มีฐานมั่นคงขึ้น


การเสียดินแดนเมื่อ ร.ศ. 112

เป็นการเสียดินแดนครั้งนี้ ฝรั่งเศสได้ถือโอกาสที่เกิดเรื่องกระทบกระทั่งกันทางชายแดน ได้ส่งเรือรบ 2 ลำ เข้ามาในแม่น้ำเจ้าพระยา เมื่อวันที่ 31 กรกฎาคม พ.ศ. 2436 โดยใช้เรือพาณิชย์นำร่องเข้ามาถึงพระนคร แล้วยื่นเงื่อนไขคำขาดกับไทย

ฝ่ายอังกฤษ เห็นพฤติกรรมฝรั่งเศส ที่จะยึดประเทศไทยโดยสิ้นเชิง ก็เข้าประท้วงคุมเชิงอยู่ ฝ่ายรัสเซียพระเจ้าซาร์นิโคลาส ได้มีพระราชโทรเลขไปยังรัฐบาลฝรั่งเศส ให้ยับยั้งการยึดครองประเทศไทย ฝรั่งเศสจึงยอมถอยเรือ กลับไปตามสัญญาลง 3 ธันวาคม 2435 แต่ได้ยึดครองดินแดนฝั่งแม่น้ำโขงไว้โดยสิ้นเชิง

กับเรียกค่าทำขวัญอีก 3 ล้านบาท กับเงินฝรั่งเศสอีก 2 ล้านฟรังค์ พร้อมทั้งยึดเมืองจันทบุรีไว้เป็นประกัน 10 ปี รวมทั้งให้ดำเนินคดี พระยอดเมืองขวาง ที่มีกรณีพิพาทกับฝรั่งเศส

ครั้นครบกำหนด 10 ปี ฝรั่งเศสไม่ยอมถอนทหารออกจากจันทบุรี แล้วกลับตั้งเงื่อนไขเรียกร้องให้ยกเขต จัมปาศักดิ์ ให้แก่ฝรั่งเศสอีก รัฐบาลไทยต้องจำยอมตามสัญญาลงวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2446 แต่แล้วฝรั่งเศสก็ถอยไปยึดจังหวัดตราด และเรียกร้องให้ไทยยอมยกดินแดน 4 จังหวัด เมื่อปี พ.ศ. 2449 เพื่อให้ฝรั่งเศสถอนทหารออกไปจากแผ่นดินไทย รัฐบาลไทยจึงต้องยอมยกให้ไป

----------------------------------------------------------------------------------------------------------

พวกเราได้เห็นการกระทำที่ไร้ซึ่งอารยะธรรม ของเหล่าคนที่เรียกว่าตัวเองมีอารยะธรรมสูงกับมี

อาวุธ กับเทคโนโลยีสูงมาทำกับประเทศเล็กๆที่ทุกอย่างด้อยกว่าเกือบทุกด้าน ยกเว้นจิตใจที่       โอบอ้อมอารีย์ เป็นมิตรกับทุกๆคน อย่างคนไทย แต่สิ่งที่ ฝรั่งเศสได้ทำไว้กับคนในดินแดนนี้

คือ การวางยาไว้ให้คนในภูมิภาคนี้ แย่งชิงแก่งแย่ง ไม่รวมตัวกันเพื่อร่วมกันพัฒนา ทั้งที่พวกเรามี ทรัพยากรที่อุดมสมบูรณ์ วัตถุดิบถูก กำลังคนก็มีมากและถูก   รวมถึงเทคโนโลยี ที่สามารถพึ่งพา ตนเองได้ สามารถแข่งขันกับประชาชนในภูมิภาคอื่นได้ แต่พวกเราทำไม่ได้คงเพราะ ยาที่เขาวางไว้

ในกรณีเขาพระวิหารเป็นตัวอย่างหนึ่งที่พวกเรากำลังจะเจออีกเงื่อนไขหนึ่งที่ ประเทศที่ยึดครอง

อินโดจีนได้ทำไว้  ทั้งการสร้างแผนที่ ที่ไม่ถูกหลักสากล แต่เขามีปืน มีความรู้มากกว่า

นึกอยากจะทำอะไรก้ได้ อยู่ประเทศในอาฟริกา บางประเทศซิครับ เส้นแบ่งเขตยังเป็นเส้นตรง

บ้างก็แบ่งประเทศที่คนสองเผ่าต้องล้างเผ่าพันธุ์กัน แล้วพวกเราจะยอมให้เข้าปั่นหัวเล่นรึ

สิ่งที่ดีที่สุดในการแก้ปัญหานี้คือ พวกเราทั้งคนไทยและกัมพูชาคือหันหน้าเข้ามาหากัน

เพื่อร่วมมือกันเถิดพวกเรา อย่าให้เกิดขัดแย้งกันเลย

----------------------------------------------------------------------------------------------------------

คนไทยที่ไม่อยากเห็นความขัดแย้งกันในภูมิภาค