Site hosted by Angelfire.com: Build your free website today!

ความเป็นมาของเครื่องวัดแอลกอฮอล์
การศึกษาวิธีที่จะวัดระดับแอลกอฮอล์ในร่างกายมีมากว่า 150 แล้ว ชาวอังกฤษ พบว่า แอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปในร่างกายจะสามารถพบบางส่วนได้ในลมหายใจและปัสสาวะ มีนักวิทยาศาสตร์ชาวฝรั่งเศสคนนึงชื่อ Nielous (ค.ศ. 1848 - ค.ศ. 1910) ได้ทำการศึกษาพบว่า แอลกอฮอล์ที่ดื่มเข้าไปในร่างกายจะพบในลมหายใจ ปัสสาวะ น้ำลาย และเหงื่อ ที่สามารถตรวจพบได้

 ในระยะแรกการวิเคราะห์หาปริมาณแอลกอฮอล์ใช้วิธีเก็บ ตัวอย่างจากเลือด หรือ ปัสสาวะจากผู้ต้องสงสัย แต่มีปัญหาคือต้องวิเคราะห์ในห้องปฏิบัติการและต้องใช้ผู้ที่มีความชำนาญทราบผลช้า และที่สำคัญคือ ไม่สามารถสื่อไปถึงปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดได้อย่างแท้จริง ทั้งนี้ขึ้นอยู่กับปริมาณน้ำในร่างกาย ดังนั้น จึงได้มีการนำวิธีการวิเคราะห์ปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดจากลมหายใจในช่วงปี 1930-1953 ได้มีการคิดค้นเครื่องวัดแอลกอฮอล์ในเลือดโดยการเป่าลมหายใจและได้มีการพัฒนาเครื่องมือวัดเป็นรุ่นๆการพัฒนาเครื่องวัดแอลกอฮอล์นี้เพื่อออกแบบให้เครื่องสามารถวัดได้เฉพาะแอลกอฮอล์ชนิดที่เป็นEthylอย่างเดียว(เครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ที่มนุษย์เราดื่มจะผสมแอลกอฮอล์ชนิด Ethyl)โดยไม่ถูกสอดแทรกโดยสารอื่นเพื่อจะให้การวิเคราะห์ปริมาณลมหายใจใกล้กับปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดมากที่สุด

เครื่องวัดระดับแอลกอฮอล์ในเลือดโดยวิธีเป่าลมหายใจ แบ่งตามลักษณะของเครื่องได้เป็นสองประเภท คือ
1.แบบพกพาไปไหนมาไหนได้
2.แบบเครื่องวัดมาตรฐาน

ถ้าแบ่งตามวัตถุประสงค์การใช้งาน แบ่งได้เป็น 2 ชนิด คือ
1.เครื่องเป่าแอลกอฮอล์ในเลือดโดยวิธีเป่าลมหายใจแบบตรวจคัดกรอง (screening)
2.เครื่องเป่าแอลกอฮอล์ในเลือดโดยวิธีเป่าลมหายใจแบบตรวจยืนยันผล (Evidential)

เครื่องวัดระดับแอลกอฮอล์ในเลือดโดยวิธีเป่าลมหายใจ แบบตรวจคัดกรอง เป็นเครื่องที่ใช้ในการทดสอบปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดโดยการเป่าลมเข้าเครื่องผลที่แสดงจะเป็นตัวหนังสือว่าเกินหรือไม่เกินค่ามาตรฐานที่ตั้งไว้

เครื่องวัดระดับแอลกอฮอล์แบบตรวจยืนยันผล เป็นเครื่องที่ใช้ในการตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด โดยวิธีเป่าลมหายใจเข้าเครื่องวัด ผลที่ได้จะแสดงเป็นตัวเลขว่ามีปริมาณในหน่วย mg/100ml เช่น 50 mg/100ml (แสดงว่า ในเลือด 100 มิลลิลิตรมีปริมาณแอลกอฮอล์อยู่ 50 มิลลิกรัม) เป็นต้น

การทำงานของเครื่องวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดโดยวิธีเป่าลมหายใจ

สำหรับการทำงานของเครื่องวัดระดับแอลกอลฮอล์ในเลือดโดยวิธีเป่าลมหายใจนั้นในการตรวจจะให้ผู้ตรวจเป่าลมหายใจเข้าเครื่องซึ่งมีตัวตรวจจับแอลกอฮอล์ (Alcohol Detector) ตรวจจับเมื่อได้รับแอลกอฮอล์ในลมหายใจจะถูกแปลค่าให้รายงานออกมาที่หน้าปัดของเครื่องหรือจอแสดงผลหน่วยของแอลกอฮอล์ในเลือดคือค่า"BAC"อาศัยการคำนวณค่าจากค่าความสัมพันธ์ของสัมประสิทธิ์ในการแปลงค่าปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดเป็นปริมาณแอลกอฮอล์ในลมหายใจ

การที่เครื่องวัดฯจะวิเคราะห์ปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดจากลมหายใจได้ถูกต้องต้องใช้ลมหายใจจากส่วนลึกของปอดผู้ผลิตเครื่องเป่าแอลกอฮอล์ได้ออกแบบให้เครื่องวัดฯ เมื่อถูกเป่าลมหายใจเข้าเครื่องต่อเนื่องไปได้ระยะหนึ่งความแรงในการเป่าจะลดลงสูบไฟฟ้าในเครื่องฯจะเก็บตัวอย่างลมหายใจประมาณ 1ซีซี แบบอัตโนมัติในกรณีที่เครื่องไม่ได้ออกแบบให้เก็บตัวอย่างลมหายใจแบบอัตโนมัติการตรวจวัดต้องให้ผู้ถูกตรวจเป่าลมหายใจเข้าเครื่องอย่างต่อเนื่อง และผู้ที่ทำการตรวจวัด จะนับ 1 ถึง 10 ในใจอย่างช้าๆ เมื่อนับครบแล้วจะแสดงผลเป็นค่าแอลกอฮอล์

ทำอย่างไรจึงจะลดโอกาสที่จะถูกตรวจสอบว่ามีปริมาณแอลกอฮอล์ในลมหายใจสูง

"การที่ไม่ดื่มเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์ตั้งแต่แก้วแรก จะเป็นการปฏิบัติตัวที่ดีที่สุด" อย่างไรก็ดีสำหรับผู้ขับขี่ยานพาหนะที่กลัวว่าจะถูกตรวจว่ามีปริมาณ แอลกอฮอล์ในเลือดเกินเกณฑ์ที่กฎหมายกำหนด ควรจะทำดังนี้

1. งดการดื่มเครื่องดื่มผสมแอลกอฮอล์อย่างน้อยไม่ต่ำกว่า 20 นาที ก่อนการขับขี่หรือควบคุมยานพาหนะ

2. อย่างน้อยใน 5 นาทีที่ก่อนการถูกตรวจวัด ไม่ควรสูบบุหรี่ เนื่องจากกลิ่นบุหรี่จะสะสมในเครื่องวัดทำให้เครื่องเสียได้และกลิ่นบุหรี่ยังอาจเป็นที่น่ารังเกียจของผู้ที่จะใช้ต่อไป

3. หากถูกเรียกเพื่อตรวจวัดลมหายใจ ก่อนท่านจะเป่าลมหายใจเข้าเครื่องวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือดจากลมหายใจจะ ต้องแน่ใจว่า หลอดเป่าที่ใช้ต้องเป็นของใหม่ที่ได้ทำให้ปลอดเชื้อ (Sterilization) แล้ว
ในกรณีที่ถูกตรวจแล้วพบว่า มีปริมาณแอลกอฮอล์ในลมหายใจเกิน 50 mg% หรือเกินกว่าที่กฎหมายกำหนดไม่มากนัก และผู้ที่ถูกตรวจไม่แน่ใจในผลการตรวจวัดฯ หรือคิดว่าตัวเองไม่เมาเหล้าถึงขนาดนั้น ผู้ที่ถูกตรวจมีสิทธิ์ตามกฎหมาย ที่จะร้องขอการตรวจพิสูจน์ได้โดยวิธีการตรวจจากปัสสาวะ และตรวจวัดจากเลือด โดยแจ้งกับเจ้าหน้าที่ที่ทำการตรวจวัด ซึ่งการตรวจวัดนี้จะกระทำภายใต้การกำกับดูแลของผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมตามกฎหมาย

 

 

เครื่องวัดแอลกอฮอล์ชนิดใช้หลอดเป่า-ไม่ใช้หลอดเป่าต่างกันอย่างไร

เครื่อง วัดแอลกอฮอล์ในปัจจุบันมีหลายแบบ มีทั้งใช้หลอดเป่าและไม่ใช้หลอดเป่า ทางร้าน Witsava ได้จัดทำบทความขึ้นมาให้ผู้ที่ต้องการศึกษาหรือสนใจได้นำไปใช้ประโยชน์ครับ โดยจะแบ่งเครื่องวัดแอลกอฮอล์ออกเป็น 2 ชนิดครับ

 

 

เครื่องวัดแอลกอฮอล์ชนิดใช้หลอดเป่า

เครื่อง วัดแอลกอฮอล์ชนิดใช้หลอดเป่าถือได้ว่าเป็นเครื่องวัดแอลกอฮอล์รุ่นแรกๆที่ ได้ทำขึ้นมาความแม่นยำขึ้นอยู่กับแรงลมของผู้เป่าแต่เพราะสวมหลอดเป่าอยู่ นั้นจึงทำให้เครื่องสามารถรับลมหายใจของผู้ใช้ได้มากยิ่งขึ้นหลอดเป่ามี หน้าที่ขยายแรงลมของเครื่องวัดแอลกอฮอล์เพื่อให้ลมได้เข้าไปในเซนเซอร์ ประมวลผลอย่างเต็มที่และการสวมหลอดเป่าสามารถหลีกเลี่ยงโรคร้ายต่างๆได้ เช่น วัณโรค หรือโรคที่สามารถติดได้ทางน้ำลาย พอใช้หลอดเป่าเสร็จแล้วก็จำเป็นต้องทำความสะอาดหรือเพื่อมาตรฐานก็นำไปกำจัด ทิ้ง


ข้อดีของเครื่องเป่าแอลกอฮอล์ชนิดใช้หลอดเป่า

สะดวก

รวดเร็ว

ปลอดภัย

เครื่องบางรุ่นต้องใช้หลอดเป่าในการขยายลม เพื่อผลลัพท์ที่ดียิ่งขึ้น

ข้อเสียของเครื่องเป่าแอลกอฮอล์ชนิดใช้หลอดเป่า

สิ้นเปลืองงบประมาณ เพราะหลอดเป่าใช้แล้วต้องทิ้ง

เป็นศูนย์รวมของเชื้อโรคร้ายหากนำมาใช้ต่อ

 

เครื่องวัดแอลกอฮอล์ชนิดไม่ใช้หลอดเป่า

เป็นการ พัฒนาในรูปแบบใหม่ของเครื่องวัดแอลกอฮอล์โดยการพัฒนาเซนเซอร์ประมวลผลให้มี การพัฒนาคุณภาพและขยายช่องลมจึงทำให้เครื่องสามารถรับแรงลมได้โดยที่ไม่ต้อง พึ่งพาอุปกรณ์เสริมเช่น หลอดเป่า ตัวเครื่องจะมีการรับแรงลมได้ดีกว่าเครื่องวัดแอลกอฮอล์ธรรมดาจึงทำให้ ประหยัดงบประมาณ ทำความสะอาดโดยการใช้น้ำยาฆ่าเชื้อในการดูแลรักษาเครื่องราคาเครื่องจะค่อน ข้างสูงเพราะมีการพัฒนามากขึ้นสังเกตุได้ง่ายๆคือช่องลมจะใหญ่กว่าเครื่อง วัดแอลกอฮอล์ธรรมดามากผลที่ได้จะไม่ต่างกันเพราะมีการตรวจวัดแอลกอฮอล์จากลม หายใจเหมาะสำหรับองค์กรที่มีพนักงานจำนวนมากเพราะจะทำให้คุ้มค่าต่อการใช้ งาน


ข้อดีของเครื่องวัดแอลกอฮอล์ไม่ใช้หลอดเป่า

สะดวก

รวดเร็ว

ประหยัดงบประมาณ

ลดการสิ้นเปลืองทรัพยากร

สามารถใช้งานกับจำนวนคนได้มากกว่า

ข้อเสียของเครื่องวัดแอลกอฮอล์ชนิดไม่ใช้หลอดเป่า

เป็นแหล่งรวมเชื้อโรคหากไม่ทำความสะอาดให้ถูกต้อง

เมื่อไม่ได้รับการ Calibration ผลที่ได้อาจจะผิดเพี้ยนไป

 

ผลสรุป

สรุปได้ ว่าเครื่องวัดแอลกอฮอล์แต่ละรุ่นจะมี่หน้าที่การใช้งานที่แตกต่างกันไปควร เลือกใช้ให้ถูกกลุ่มเป้าหมายถ้าต้องการผลที่แม่นยำที่สุดควรเลือกใช้แบบพึ่ง หลอดเป่าแต่ถ้าต้องการความคุ้มค่าต้องเลือกแบบไม่ใช้หลอดเป่าเพราะจะสามารถ ตอบโจทย์ได้ดีกว่าครับการเลือกใช้ผิดกลุ่มเป้าหมายเหมือนเสียเงินเปล่าควร สอบถามข้อมูลให้ดีก่อนการตัดสินใจเลือกซื้อเครื่องมือวัดครับเพราะอย่าลืม ว่าเครื่องวัดแอลกอฮอล์เป็นอุปกรณ์วิทยาศาสตร์และอุปกรณ์ตรวจวัดต้องมีการ บำรุงรักษาที่ถูกต้องครับจึงจะได้ผลลัพท์ที่ถูกต้อง