Site hosted by Angelfire.com: Build your free website today!

Glossary of Story


180 Degree Power Punch Sa Radio
The Truth Middle School Rush Day
Ironic School lied Free tuition for 1 semester
Car Accidents Car Accident Related ถูกหวยรวยใหญ่ไปพักหนึ่ง
Don Don from Jack in the Box Motorcycle Accident ปืนจอหัว
ติดค่าฟันหมอยังไม่จ่าย นังเลง หมาหมู่
ตีกันที่นารายณ์ เฮโรอีน หนีโรงเรียนที่TBC
ต้มตุ้น ขโมยของ เห็นคพ

180 Degree

Around 24-25 October it was raining but not too hard.  I was driving my way to work at Wendy's, at to 35 ram to 1604, I spun my car almost 180 degree because I drove too fast. I told my friend at Wendy’s that I did 360 but it was a lie!

Top


Power punch

Day after Christmas I had a fight with my girlfriend, I lost self control and punched my review mirror and broke it, my second power punch at the windshield from inside the car and I cracked it bad.  I was driving on the highway 60 or more mile per hour after the 18 whaler, the big rock bounce from the road and hit my windshield hard nothing brake, but the temper can brake everything.
Top

SA radio

I listened to mix96.1 radio station and I happen to hear the show on the radio.  They had people call in to confess anything and one of the caller call to confess about she lied to someone that her mom had cancer, she likes this man and try to get his attention and date with her, I think she try to make him pity her or something.  We know that is absolutely not right, and she knows that as well, so she tried to confess that for someone to hear her so she can get that out of her chess, but the result and the respond that she got from the show was shitty stupid ignorant plus all the punishments for her guilty.  It makes her feel worse and it is not right to make a confession session to push them down some more.
Top

The truth

แต่ก่อนแว็บไซท "angelfire" ให้เนื้อที่สำหรับสมาชิกเป็นขนาด 50MB ตอนนี้ลดเหลือ 20MB อาจเป็นเพราะว่ามีคนหลายคนรู้จักแว็บไซทนี้มากขึ้นก็ไม่ได้ว่าอะไรแว็บไซทนี้หรอก เพราะบริษัทนี้เป็นบริษัทที่ดีมาก สำหรับทำอะไรหลาย หลายอย่าง เพียงอยากจะเล่าเรื่อง1เรื่องให้ฟัง ว่าตอนเรียนที่โรงเรียน "C.P.I" วิชาทำแว็บไซท เราก็รู้จังแว็บไซทนี้มาก่อนแล้ว จากเพื่อนชื่อ Chris เพราะเขาทำเรียนทำแว็บไซทมาก่อน และ เขา ก็ใช้เนื้อที่ของบริษัทนี้ ทั้งนี้ทั้งนั้น บริษัทนี้ชื่อ Lycos ก็เลยบอกกับคนคนหนึ่งชื่อ เซ็ท เขาใช้เซอร์วิทของ Yahoo และบริษัทนี้ ให้เนื้อที่แค่ 16MB พอบอกไปเขาก็เลยเปลี่ยนมาใช้ angelfire ทันที่ก็ไม่ได้ว่าอะไร เพราะบอกไปเพื่อให้เปลี่ยน แต่ติดตรงที่ว่าเขา ก็ไปบอกกับเพื่อนในกลุ่มว่า เขาเป็นคนที่รู้จักแว็บไซทน ี้และเป็นคนบุกเบิก และมาบอกเรา ว่าเราไม่ได้เป็นคนรู้ก่อน คนอย่าง นี้คิดว่าน่าคบด้วยหรือเปล่า ก็เลยเกลียดขี้หน้ามาตั้งแต่นั้น มาจนถึงบัดนี้เรา ไม่อยากได้หรอกเดรดิทหน่ะ แต่ว่ามันหน้าเกลียดเกิน ไปเป็นใครใครเขาก็ไม่ชอบ ก็แค่อยากเล่าให้ฟังเฉยเฉย เอาไว้คิดว่า เคยมีใครทำอย่างนี้บ้างถ้ามีก็เเขียน  E-mail มาเล่าสู่กันฟังบ้าง ขอบคุณ Lycos อีกทีที่เป็นบริษัท ที่มีประโยชน์ในหลายหลายด้าน ให้คนหลายหลายคน เอ้อไม่ต้องไปหาแว็บไซท ของนายเซ็ท คนนี้จากแว็บไซค์นี้เพราะว่า ไม่ดีพอที่จะให้คนอื่นเห็น
Top

Middle school

ตอนเรียนอยู่มัธยมต้นก็เรียนอยู่ในห้องที่ขึ้นชื่อว่าเลวที่สุดห้อง 18 มัธยมต้นปีเแรกมี 20 ห้องที่ 20 เป็นห้องที่เลวที่สุดแต่พอปีที่ 2 เด็กห้อง 20 ก็ถูกแบ่งแยกไป อยู่อีกหลายหลายห้อง บางคนเรียนดีก็ได้ไปอยู่ห้องดี แต่เกือบทุกคนแยกไปอยู่ห้อง 18 กับ 19 พอหลังจากนั้นห้องที่ 18 ก็ขึ้นชื่อว่า เป็นห้องที่เลวที่สุด ห้องที่ดีสำหรับเด็กเรียน ก็จะเป็นห้องที่ 14-16 จะเป็นเด็กที่สอบเข้าได้จริงจริง และคะแนนดีกว่าพวกที่สอบรอบ 1 เพราะว่าพวกรอบ 1 เขาไม่คัดมาก ใครสมัครสอบได้นิดหน่อยก็ได้เข้าแต่รอบ 2 เขาต้องจำกัดเด็ก เพราะว่าห้องเหลือน้อย ก็เลยเลือกเฉพาะคนที่เก่งจริงจริง แต่เรื่องที่จะเล่าให้ฟังคือ ว่าห้องที่เลวที่สุดมีคนเกิดวันที่ 28 กันยายน ถึง 3 คน คนแรก เกิด 28 กันยายน ปี 20 แก่ที่สุด และก็เป็นที่มีคนนับถือเป็นลูกพี่มากที่สุดในห้อง ไม่มีใครกล้าเสี่ยงด้วย แต่เขาก็ไม่ใช้เป็นเด็กไม่ดี คนที่ 2 เป็นคนฟันเหยินนิดหน่อย เกิดวันเดียวกันแต่ ปี 21 คนที่ 3 ก็คือเราเองเกิน 28 กันยายน ปี 2522 อ่อนสุดถูกรังแกแต่ก็ไม่ประจำเท่าไหร่
Top

Rush day

The day that David when to New York was one of the busiest days since I came to San Antonio.  I can’t really describe what I had to do and what had to be done on that day but.  Me and David woke up late he missed the flight, he had to take the next flight, it was almost out of hand, had to run back home in another hand I have to check and make sure David is going to get the next flight because they were not sure if someone will cancel their flight or not and that was the only chance but David have to wait for 2 hour, I have to take my girlfriend to school for some reason I had to go with her that day, we have to call Jerry David’s step father and let him know by the way I left my cell phone with David to call Jerry and wait for Jerry to respond, and so I can call him to get my cell phone back when I finish my morning business.  When I came back to the airport I call him on my cell phone he said he is checking in now so I have to hurry to get my cell phone before he get in there and I made it.  After that I have to pick up my girlfriend and I schedule to see my customer in the after noon, and I remember I still have couple of thing to do before I finally get back home, so it wasn’t only a morning rush, it was all day rush.
Top

Ironic

I used to work with senior citizen at the Army Resident Community in San Antonio.  I had lot of friends there co-worker and resident one of my favorite resident was Mr. Carl Weinmeister he is was a very nice guy, my mom work for him too and he had a good close friend live in the same block as he is name Mrs. Gillespie.  Mr. Weinmeister was very helpful to me, at that time I don’t know much about computer, I bought a computer and don’t really know how to use it and how to connect to internet and he was the one who concern about my problem, he call MSN tech support and find out about my problem, he didn’t know a lot about computer himself but at lease he got the number to the right place for me to call to get help and solved my problem, he also went to the best buy store with me and help me talk to technician to solve my problem for my computer, I still remember when he was in the car with me!.  I went to see him couple of times at his apartment just to hang out and help him type something from the book into his computer.  Year 2000 sometime in around august he commit suicide by jump off from the 6th floor from his room 624 early in the morning, he suffer the pain for at least 3-4 hours before he died, by the time ER came he was barely breathing “he was dying” he died just before he get to the hospital.  I don’t know much of the detail about him, but I know he went to war, he suffer a bad headache for long time and his family barely come to visit him and he was so lonesome.  My mom was crying of pitying him, but nothing that we can do about.  Every was ok and back to normal for a month Mrs. Gillespie was doing fine I went to visit her at her house couple of times to check on her, she shown me Mr. Weinmister picture when he was young and her pictures also.  Mrs. Gillespie was a very nice lady and I also respect her like Mr. Weinmister and try to help her as much as I could in the dinning room.  Once day I was out side I was walking back in from delivery and I saw her just parked her car, so I stop and talk with her for a while, suddenly! some black bird floe by in the sky above us and cry like twice, she look up and said oh look at that bird (she told me the name of the bird and I don’t remember) it is the bird of death it come to pick up someone and something bad will happen to some and someone will die (I don’t know exactly what she told me but something like that) I just say “oh really” I change the subject and talk to her for a little bit after that and said that I have to go back in, so I went back in work throughout the day and went home after work.  The next morning I came to work and the next thing I know was she passed away!  I was shocked that all I can say.
Top

School lied

ที่โรงเรียนไทยบริหารธุรกิจและพณิชยการ ตอนเรียน อยู่ปี 2 เป็นวันแม่ โรงเรียนบอกว่าโกวิืท วัฒนกุลจะมาพูดบนเวที เกี่ยวกับพระคุณของแม่หลังเขาแถวเคารพธงชาติเสร็จ ถึงเวลาที่ โกวิทจะมาก็ไม่เห็นมา สักพักผู้อำนวยการ ก็มาบอกว่ารถติดมาไม่ได้แล้ว คนก็เชื่อ แต่เราก็แอะใจ ว่ารถติดถึงยังไงก็มาได้ และถ้าเป็นถึงคนดังยังไงก็ไม่ทำให้เสียชื่อหรอก ยังไงก็ต้องมาก่อนเวลา ประมาณ 1 อาทิตย์ต่อมา ก็ไปทำงานที่โรงแรม ดิอิมเมอรัลที่รัชดา กับพี่ดาว เพราะพี่ดาวทำ ที่นั่นมาก่อน เป็นงานที่ทำวันต่อวันทำเยอะก็ได้เยอะ กะหนึ่งเป็นเวลา 8 ชั่วโมง ทำเสร็จก็ได้ 150 บาทและ การทำงานอย่างนี้ไม่จำเป็น ต้องสมัคร ก็แค่เดินไปเวลาเขามีงาน เขาเรียก แค่บัตรประชาชน พอเลิกงานก็ให้คืน วันนั่นไปทำงานและที่งานมีโกวิทเป็นแขกรับเชิญของงาน เริ่มแต่แรกมาโกวิทเคยทำงานรถไฟ กับพ่อหน่อย และโกวิทก็รู้จักแม่เป็นอย่างดี และลุงโกวิท ก็รู้จักปุ้ยเป็นอย่างดี ก่อนเขาวงการลุงเขาก็มาดูดวงกับแม่ และบอกว่า เขาจะไปสอบเป็นดารา ต้องผ่านการทดสอบหลายอย่าง เขาจะผ่านไหม แม่ดูลายมือและบอกว่า ไม่มีปัญหาให้ไปเป็นเถอะ และขอให้โชคดี พอ ไปสอบก็ผ่านไม่มีปัญหา เขาก็ออกงานรถไฟไปเป็นดารา และยังมาลาแม่อีก ก็เลยทำให้เรารู้จักกันแต่ พอบอกใครก็ไม่มีใครเชื่อแต่ไม่เป็นไร ถึงไหนแล้ว อ้อ ก็เลยเข้าไปคุยกับลุงเขาว่าเป็นไง ลุงเขาจำไม่ได้ตอนแรกว่าใครเพราะโตแล้ว แต่พอบอกไปว่าเป็น ลูกพ่อหน่อยก็เลย อ้อเลย ก็ถามว่าแม่เป็นไง ก็บอกว่าแม่ไปอยู่เมืองนอกแล้ว แล้วพอก็ไม่รู้ไปอยู่ไหน ไม่ได้ติดต่อ และก็ถามว่าทำไม่ไม่ไป ที่โรงเรียนเขา ก็บอกว่าไม่รู้เรื่องอะไรเลย ก็เลยรู้ว่าโรงเรียนโกหกทั้งเพ แต่ก็ไม่เป็นไร ผ่านมาแล้ว แล้วก็ถามว่าหางานให้ทำหน่อย ลุงบอกว่าไม่รู้ว่างานอะไรมันมี ก็ถามว่าให้ไปเป็นดาราบ้างสิ ลุงก็บอกว่า ไม่ดีหรอก ไม่รู้ไม่ดีอะไร แต่ไม่ช่วยก็ไม่เป็นไร ไม่ได้หวังมากเท่าไร แค่ถามไปงั้น
Top

Free tuition for 1 semester

ถ้าบอกไปหลายคน ต้องอิจฉาแต่ว่าก็จะเล่าให้ฟังว่าถึงโรงเรียน จะโกหกเรื่องโกวิท แต่ว่าโรงเรียน ก็แสนดีที่ให้เราเรียน ฟรีตั้ง 1เทอม ไม่มีใครรู้หรอก เพราะว่าปกติติดเงินค่าเทอมไว้ทุกเทอม ตั้งแต่ แม่มาเมืองนอก จ่ายช้าทุกทีจนมีอยู่ 1 เทอม เขาก็เกิดไม่ทวงเลยจน ต่างคนต่างลืม จริง จริง แล้วเราลืมไปพักเดียว จำได้ว่าเทอม 2 ของปี 2 ประมาณ 6,200 กว่าบาท ก็เลยหุบปากเงียบ เพราะถ้ามีคนอิจฉาไปบอกครู ก็จะไม่ได้โอกาสทองไป เหมือนเป็นการขี้โกงเนอะ แต่ว่าเรา ถือว่าเป็นโชค คนทำผิดเองไม่ใช้เรา ชอบทวงเงินดีนัก อดได้กำไรไปตั้ง 1 เทอม คงไม่ว่ากัน
Top

Car accidents

เราถือว่าเป็นคนที่รอบคอบในการขับรถมากคนหนึ่ง สอนคนขับรถมาก็ หลายคนมาก ประมาณ 1-2 คน แต่ถึงยังไงก็ต้องมีเหตุการณ์ไม่คาดคิดเกิดขึ้นมาบ้าง ตั้งแต่ซื้อรถมา ขับชนไปก็หลายครั้ง แต่ไม่มีใครรู้เท่าไหร่ เพราะ ไม่สำคัญ ชนครั้งแรก บน highway ตอนฝนตกถนนลื่น เบรกไม่ทันก็อัด รถคนหน้าไปแต่ไม่มีใครเสียหายก็เลยรอดไป อีกครั้งหนึ่งก็ถนน สายเดิม ชนอีกตอนฝนตก ไม่มีใครเป็นอะไรก็รอดตัวไปอีก วันศุกร์ที่ 6 เดือนมีนา 2004 เพิ่งผ่านมาได้ไม่กี่วันก่อนมาเขียนนี้ก็ กำลังขับไปหาอะไรกินกับเพื่อนก็จะไปเจอกันที่ร้าน เข้าเลนผิดขับตรงไม่ได้ก็ต้องเลี้ยว พอเลี้ยวก็ต้อง หาที่กลับรถมาที่ถนนเดิม ก็เลยเข้าซอยไปในหมู่บ้าน จะหาที่กลับรถก็จะขับเข้าไปใน ที่จอดรถหน้า้บ้านคน และก็จะถอยหลังกลับรถ ก็รู้สึกอยู่หน่อยหนึ่งว่าจะเลี้ยวไม่พ้น แต่สมองมันไม่รู้ไปอยู่ไหนหมดก็เลย ชน ตู้จดหมายเข้าให้เลย ดีตรงที่ว่าชนตรงกระถาง ข้างล่างไม่ได้ชน ตู้จดหมายไม่อย่างนั้น หักไปยุ่งอีก ก็เลยรีบขับหนีออกมา แต่ว่าจะกลับไปบอก และขอโทษเขา เพราะอาจจะมีคนเห็น ชนแรงนะ แต่ไม่แรงมาก เสียงคงดังน่าดูข้างนอก รถก็เป็นรอยถลอกข้างล่างตรงหน้ากาก ก่อนหน้านั่นครั้งนี้ ก็กลับมา เมือง San Antonio จากเมืองที่แม่ย้ายไปอยู่พักหนึ่งทางเหนือ ตอนกลางคืนมีของมาเต็มหลังรถ และแม่ก็นั่งมาด้วย ขับมาประมาณ 80Mile / 1 ชั่วโมง ก็ประมาณ 120 กิโลต่อ 1 ชั่วโมง ขับมาผ่านฟาร์มเยอะ แมลงก็มาตาย ตรงหน้ากระจกรถก็เลย ปัดกระจกใช้ที่ปัดน้ำฝนและฉีดน้ำ พอเริ่มจะเห็นทางรู้ตัวอื่กที่ ก็เห็นกวางตัวใหญ่มาอยู่ตรงหน้ารถ ก็เลยหักรถหลบไปทางซ้ายได้นิดหนึ่งแต่ก็ยังชน พอชนก็เสร็จ ก็รู้สึกว่าล้อหลังเหยียบตัวมันไปด้วย แม่ตกใจมาก เราก็ตกใจไม่แพ้กันทั้งตกใจทั้งกลัวและแค้น ด้วยที่ไม่น่าจะเกิดขึ้น พอมาถึงที่ เมือง Austin ก็หยุดดูก็เห็นว่า ไฟหน้าข้างขวาแตก และกระโปรงรถก็ยุบไป หน่อยหนึ่ง ตอนนี้ก็ยังซ่อมไม่หมด พอ Dad ขับรถกลับมาอีกวันหนึ่ง ก็บอกว่า เห็นกวางตัวใหญ่นอนตายอยู่ข้างทางก็รู้ว่าเป็นตัวที่ชน มีอยู่หนึ่งวันขับรถไปรับ Dad หลังจากเขา เลิกงาน ก็หลังเที่ยงคืนแล้ว ขับออกมาจาก ซอยที่ทำงานเขาได้ประมาณ ไม่เท่าไหร่ รถเก๋งอีกคันไม่เห็นเรา เพราะว่าเขาเราขับเยื้องหลังเขามาหน่อย เป็นจุดบอดที่เขามองไม่เห็น ก็เลยชนเราข้างหน้าก็แรงอยู่เพราะขับมาประมาณ 60-70 กิโลต่อชั่วโมง ก็ 40ไมล์ต่อ 1 ชั่วโมงก็เลยขับไปเข้าข้างทางเกือบชนเสาไฟฟ้า จอดคุยกันโทรเรียกตำรวจและ ก็เขียน รายงานพักหหนึ่งก็แยกย้ายกลับบ้านกันไป เขาผิด เขาก็เลยจ่ายมาบ้าง แต่ก็ไม่เต็มค่าเสียหาย รถ Dad ข้างหน้าก็เลยไม่น่าดูเท่าไหร่
Top

Car accident related

พูดถึงเรื่องขับรถชนสัตว์ กวางก็็ไม่ใช้ชนิดเดียวที่ ขับไปชน ตามสถิติแล้ว ตั้งแต่ขับรถมาฆ่ามาแล้ว 5 อย่าง อย่างแรกรู้แล้วก็คือกวาง และก็มีกระต่าย ขับไปเหยียบตอนขับรถไปหา เดวิท บ้านมันก็อยู่ซะ ชานเมืองทางขับไปก็มีป่าและฟาร์ม 2 ข้างทางพอวิ่งออกมา เห็นก็ช้าไปเสียแล้ว และตอนขับมาบ้านจากไปเที่ยวกับเพื่อน ก็ขับรถเหยียบตัวสกั้ง เข้าล้อหน้า ขับไปส่ง แม่กระรอกวิ่งตัดหน้ามาจากอีกเลนไม่เป็นไร พอถึงเลนเรา ก็เกือบจะพ้นเข้าข้างทาง มาเจอล้อหลังเราเข้าไป ดังกรึบ! เราก็ขนลุกแม่ไม่เห็นหรอกบ่นอยู่ ขับกลับมาก็เห็นนอนตายอยู่ ไม่มีเลือดไม่เละแต่ก็แบน ตกใจที่สุดก็ตอนขับไป 410 จะ เข้า 10 กำลัง เลี้ยวเข้าทางโค้งเลย นกบินมาจูบกระจกดังโป๊ง เราก็ร้องออกมาว๊าย! อ้อไม่ใช่ ร้องออกมา โว๊ย! ขวัญกระเจิงไปพักใหญ่
Top

ถูกหวยรวยใหญ่ไปพักหนึ่ง

หวยที่เคยถูกมาก็มีรางวัลใหญ่บาง ตั้งแต่มาอยู่ที่ Texas ซื้อมาถูกมาสุดก็ เล่น 3 ตัว เลขอะไรก็จำไม่ค่อยได้ ประมาณว่า 388 ได้ มา 80 เหรียญ แต่ที่ถูกที่เมืองไทยก็ เลข 71 และ 071 โต๊ด และ เต้ง เล่นกับโอ๋ (แพร่) ประมาณ 100 กว่า ได้มาก็ประมาณ 9,000 กว่าบาท และก็ ซื้อหวยรัฐบาลอีก ก็เลยได้อีกประมาณ 1,200 ตกลกได้มาประมาณ หมื่นกว่าบาท เรื่องก็คือว่า ไปต่อรถแถวแถว สะพานพุทธ และก็เห็นเด็กผู้ชายคิดว่าหลงทาง นั่งรถไปเรื่อยก็เลยถามว่าเป็นเด็ก ที่ไหน มายังไง ก็พูดกันไม่ค่อยรู้เรื่องเพราะคิดว่าเป็นเด็กกำพร้าหรือว่า ไม่มีที่ไป ก็เลย บอกว่าจะพา มาที่บ้าน อายุก็ประมาณ 8 ขวบ ไม่ค่อยพูดหรอก ก็พามาหาอะไรกินและ ก็ให้อาบน้ำ มานอนอยู่ได้คืนหนึ่ง น้าเล็กก็บอกให้พากลับ เพราะว่า เขาไม่ชอบคนนอก และคงกลัว จะเปลืองค่าใช้จ่ายในบ้าน เราก็ไม่มีเวลาจะเลี้ยงเท่าไหร่ก็เลยต้องบอกให้กลับแต่ ว่าสุดท้ายเขา ก็เริ่มชินกับทางบ้าน เริ่มพูดและ เริ่มเล่น เราก็ไม่อยากให้ไปเท่าไหร่ ก็กะว่าจะเลี้ยง เท่าที่จะเลี้ยงได้ไปเลย แต่ก็ต้องจำใจ ก็พากลับก็ถามไปงั้นงั้นว่า หวยออกอะไร น้องเขาก็เขียนมาให้ เป็นลางลางเหมือน เลข 71 เราก็มีความรู้สึกชอบเลขนี้ และตั้งใจซื้อแน่ เหมือนจะรู้ว่าจะถูกเหมือนกัน ก็บอกโอ๋ให้ซื้อให้ 100 บาท โอ๋ก็ตามด้วยออกมาถูกใหญ่ ด้วยกันก็เลยเลี้ยงกันนิดหน่อย กับพี่อู๊ด หลังจากนั้นก็มีแต่คนมาถามว่า งวดหน้าออกอะไร
Top

Don Don from Jack in the Box

Work at Wendy's as a drive thru person, prepare and hand out the order at the window, once day some customer asked me do I work at Jack in the Box? I told them “no, I only work here” and the driver asked me do I have a brother? I told him “no, I don’t have a brother” they told me to go to Jack in the box and check out the drive thru guy there look just like me.  I kind of know because people kept mistaken about him, and me some people acted like they know me very well, they start talking to me like friend and I don’ even know them, I acted confuse in front of them and start asking what? or hrh? and turn them away, someone used to work there came to my window and start talking to me, I told her I ‘m not Don Don and she didn’t believed me, it happened almost everyday that I work.  On October 25, 2002 I believed, I decided to go visit him in person at his work but I took my friend from Wendy’s with me, as soon as I pull up in the parking lot, couple of people those were taking a break out site saw me and stare at me,  I saw one of them walk back inside real quick.  I ordered and ready to drive up to pay, when I got up there, there were 3 people at the 1st window waiting to see me, they just look at me and didn’t say anything until I asked for Don Don.  It was my day off on Sunday, funny thing it was his day off too, he came up to me I said hi and gave him a handshake, I noticed that he wore same kind of hat that I wore, same kind of sweater and he look similar to me except his face and his body is little bit fatter than me.  I wished I could take his picture, now he still work for Jack in the Box but different store, and I work at H-E-B.
Top

Motorcycle accident

พูดถึงอุบัติเหตุยังไม่จบนึกขึ้นได้ว่าขับมอเตอร์ไซค์เหมือนกัน วันแรกที่จับก็รถคว่ำเลย เพราะรถเพื่อนเป็นรถแต่ง แรงจัดเพื่อนซ้อนหลัง พอเริ่มสตาทก็ยกล้อ เพื่อนก็นึกว่าเราเป็นพวก มืออาชีพ แต่เราตกใจแทบตาย ยกไปสองรอบเห็นเสาไฟฟ้า เพื่อนก็นึกว่าเราจะโชว์วิธีการขับ มอเตอร์ไซค์ไต้เสา แต่ว่าคงใจไม่กล้าพอที่จะนั่งข้างหลังก็เลยดีด ตัวเองออกไปกลิ้งข้างลางแทน เราก็ไม่อยากให้เพื่อนอิจฉาว่าเราปีนเสาได้ก็เลย หักหลบล้มไปทั้งคนทั้งรถ น้ำมันก็หกออกมาเรา ก็เจ็บนอนอยู่สักพัก ไม่มีคนมาช่วยหรอก เพราะเขาสมน้ำหน้านึกว่าเราเป็นพวกนักซิ่งแต่สักพัก ก็ลุกมาไปทำงานเดินข้าลากไปมีแต่คนมอง แต่ไม่มีใครช่วย ครั้งที่สอง นั่งรถกลับกลับพี่ที่ ร้านให้เขาไปส่ง บ้านจาก ร้านชายคาเสนา ตอนกลับเขาก็เมาและก็กลับมาตรงรัชดา ผ่านหน้าศาลไป พอถึงสะพานก็จะขึ้น ก็บอกว่าพี่ผิดทางให้ขับตรงไป และเลี้ยวเข้าใต้สะพาน ไปทางลาดพร้าว เขาก็หักเลี้ยวอย่างรวดเร็ว ก็ผ่าลูกบากกลางถนนลูกใหญ่ด้วย ก็เสียหลักสิ รถส่ายได้ไม่ถึง 10 วินาที พี่เขาก็สอนวิธีการหมุนตัวกลางถนน เราเรียนเก่งแป็บเดียวก็เป็นแต่ พี่เขาสอนไม่เก่งรถทับขาไถลไปกับพื้นเรา ไม่เป็นอะไรเท่าไหร่ รถกะบะมาอย่างเร็ว ตามหลังเบรกอย่างแรงแต่ก็หลบทัน นั่งข้างทางสักพักก็ไปต่อ ไม่ดูรถที่บ้าน รถก็สภาพไม่ดี แต่ ขาพี่เขาแย่กว่า แต่ก็ขับกลับบ้านไปได้อย่างดี
Top

ปืนจอหัว

ทำงานอยู่ที่สยามกีฬา อยู่วันหนึ่งออกมากินข้าวพักข้างนอกคนเดียว ก็เจอผู้หญิงอยู่ 2 คน เป็นลูกพี่ลูกน้องกัน ยังไงก็จำไม่ค่อยได้แต่ได้คุยกัน คนโตชื่อ กบเหมือนเรา และก็ยังไงก็ไม่รู้เขา ชวนให้ไปที่ห้องเขา เขาก็เอาเกมส์มาเล่นให้เราดูแต่ไม่ให้เราเล่น ก็ไม่เป็นไร สักพักเขาบอกว่าจะไปนอนแล้ว แล้วก็ให้เราดูเขานอน ก็ไม่เป็นไร ก็คุยคุยไปทำความรู้จักกันเขา ก็ให้เราไปนอนคุยด้วย เราก็นอนด้วยพักหนึ่งเขาก็พยายามบอกให้เราเป็นแฟนให้เขา ถ้าไม่เป็นแฟน เขาก็จะฆ่าเรา เพราะเขาบอกว่าเรานอกกับเขาก็ต้องเป็นแฟนเป็นแค่เพื่อนไม่ได้ เราก็งง และเขาก็ลุกไปเอาปืนของพ่อเขามา เพราะพ่อเขาเป็นตำรวจ เอามาให้ดูแบบว่าขู่ เราก็บอกว่า ปืนขึ้นสนิม ใช้ไม่ได้หรอก แบบว่าอยากลองว่าถูกยิงจะรู้สึกยังไง เขาก็เอาปืน มาจ่้อหัวและทำท่า ไ่ม่สนใจที่จะลองยิงดูว่ามีกระสุนอยู่หรือเปล่า เราก็ไม่รู้จะทำยังไงก็ได้แต่เงียบและลุ้น และคนที่ชนะก็เป็นเรา เขาเอาไปเก็บและบอกว่าให้รีบกลับบ้านเพราะ่พ่อกำลังจะมา เราไม่อยากจะลุ้นสองรอบ ก็เลยต้องรีบกลับ หลังจากวันนั้นคุยกันอีกรอบก็ไม่ได้ติดต่อกันอีกเลย
Top

ติดค่าฟันหมอยังไม่จ่ายเลย

ตอนเป็นเด็กก็เป็นเด็กฟันเหยิน มีฟันที่มีเสน่ห์มากใครเห็นก็ต้องหลีกทางให้ ฟันแข็งแรงมากขนาด ตกลงมา 2 เมตร จากฝนังที่ปีนเล่นตอนเ้ป็นเณรทีวันลาดพร้าว เอาฟันลงพื้นก่อน เสื้อน้ำมันขาดเป็น รอยฟัน ฟันก็เจ็บไปหลายวันแต่ไม่เป็นไรมาก ฟันเจาะหัวคน เลือดออกมาหลายคน แม่ก็เลยต้องพาไปดัดฟัน หมดไปประมาณ  20,000 กว่า ไปหาหมอเป็นเวลา ประมาณ 2 ปี กว่า หมอที่โรงพยาบาลจุฬาแผนกฟัน เป็นโรงพยาบาลที่ดีมาก ขายอาหารถูกและ สะอาด หมอเป็นเหมือนกับพวกนักเรียนฝึกงาน แต่เขาจะจบเอกแล้วฝีมือไม่ต้องห่วง ช่วงแรกก็ไปทุก ทุกอาทิตย์แต่พอขึงลวดแล้ว ก็ไปทุกทุกเดือน แต่ละเดือนก็จ่าย ประมาณ 1,850 บางครั้งก็ติดเอาไว้บ้างแต่ก็ต้องทบงวดทุกทีเขาก็ไม่ว่า จ่ายเงินสดนี้แหละ บางทีก็นั่งรถไปคนเดียว แต่ช่วงแรก แม่จะไปด้วย พอแม่มาเมืองนอก เขาก็เอาลวดออกและให้ไปเช็คทุกทุกเดือนตอนนั้นก็ ติดไว้ 1 งวด พอเอาลวดออกก็ไม่กลับไปอีกเลย แต่เวลาไปเมืองไทยก็จะกลับไปจ่ายอยู่
Top

นังเลง

ตังแต่เล็กก็ไม่ใช้ว่าจะไม่ห้าวเท่าไหร่ มีเรื่องกันคนมาก็หลายคน แต่ก็เพราะว่า ตามเพื่อนตามฝุง ตอนอยู่มัธยม ท้าต่อยกับไอ้แบะ แต่ลงเอยไม่ได้แตะตัวกัน ต่อยไอ้หนูสุดแรงจนตัวเองร้องไห้ ไม่รู้ร้องทำไมเหมือนกัน แต่มันก็อยากจะเอาคืนก็เลยชวนไปต่อยหน้าบ้านไอยรา เพื่อนมุงดูกันเต็ม เราเป็นรองเพราะมัน เอาแขนมากดตัวเราและทุบหลัง เราก็ต่อยท้องแต่ไม่เจ็บเท่าไหร่ ไม่ให้โดนหน้าก็พอ พอจบเพื่อนก็ไปเอาใจ ทางโน้น ส่วนเราไม่ค่อยมีใครอยากคุยด้วยเท่าไหร่ ที่ซอยก็มีข่าวคุยกัน ข้างหลังว่าคน ท้ายซอยจะมาเอาเรื่องเรา เราก็เลย ถือโอกาสตอนเด็กท้ายซอย มา จำไม่ได้ว่าชื่ออะไรได้ มันก็ไม่ได้เป็นเด็กไม่ดีเท่าไหร่ ทำไปเพื่อ อวดคนแถวนั้น ไปอย่างนั่นแหละ ไม่ทำอะไรจริงจริงหรอก ถึงทำจริง แม่เราก็อยู่ในบ้าน คอยห้าม มีคนเยอะก็เลยถือโอกาส เดินไปท้าต่อย มันก็ไม่กล้าอะไร ก็คุยดีดี เราก็ เลยคุยดีดีไป ก็ยังเด็กเด็ก กันอยู่ แต่เด็กท้ายซอยอีกคน กวนตี- มาก เล่นกันไปตรงกองทราย สองสามวัน ทนไม่ไหว ชวนตีกันซะ มันก็บอกว่า ให้มันกับเพื่อนอีกคน รุมเรา เราก็ไม่เอาซิ พอหลังจากนั่น เดินผ่านหน้าบ้านมัน มันจะออกมา กวนตี- เรา มันได้เปรียบ เพราะว่าอยู่แถวบ้านมัน มีอยู่วันที่บ้านมีนบุรี ขับรถจักรยานไปกับ บอล หน้าปากซอยซื้อของ ผ่านซอยสุดท้าย ก่อนถึงถนนใหญ่ ก็มีกลุ่มเด็ก ล้อเราว่าฟันเราเหยิน พอผ่านได้สักสองสาม รอบ ทนไม่ไหว ก็เลี้ยวไป จอดพวกมัน ก็เลยงง กันใหญ่ไม่นึกว่าจะกล้าแต่พวกมันก็เด็ก รุ่นน้องเรา บอลก็ไม่นึกว่าจะเลี้ยวเข้าไป แต่ก็เข้าไปด้วย ไปคุยว่าจะเอายังไงล้อจัง พวกมันก็เงียบหลังจากนั่น ก็เลยสอนบอกว่าอย่าทำ แล้วก็ขี่ออกมา แต่ตอนอยู่ที่โรงเรียนประถมวัดรวก ไม่ค่อยมีใครกล้าเท่าไหร่ เพราะ เราเก่งไปซะหลายอย่างเรื่องเรียน เพราะเพิ่งย้ายมาจาก โรงเรียนจ่ายตังค์
Top

หมาหมู่

เจอนังเลงหมาหมู่กลางซอยเกือบตายเพราะว่า มากกันเกือบ 20 คน ผู้หญิงและผู้ชาย ไอ้ตั้มมาเรียกถึงหน้าบ้านให้เราออกไปหา มีผู้หญิงรออยู่กลางซอย แล้วใครจะมาหา ถ้ามาก็ต้องมาในบ้านแล้วซิ เราก็ออกไปหน่อย ไม่ได้ใส่รองเท้าไป พอออกมาสักพัก เห็นคนอยู่ไม่รู้จัก ก็รู้ว่้าต้องมีอะไรแล้ว ก็เลย จะหันหลังกลับ มันก็จับเอาไว้ นุชก็ออกมา เราก็บอกว่าให้เข้าไปในบ้าน ก็ยังบื้อออกมาเสนอหน้า ไม่รู้ว่าอันตราย ถ้ามันทำอะไรเรา ก็แน่อยู่แล้วว่า มันไม่ปล่อยให้ไปบอกใครหรอก บอกคนคอเจ็บให้วิ่งเข้าบ้าน ก็ไม่ไป ผู้หญิงพวกมันอยู่้คนหนึ่งก็จะท้าตบอีกต่างหาก รู้ว่าเป็นห่วงแต่ถ้าคิดซะหน่อย ทำตามที่บอก เข้าไปบอกผู้ใหญ่ก็จะไม่มีอะไรมาก เพราะ ถ้าพวกมันจะทำอะไรยังไงมันก็ต้องทำ ถึงมีคนอยู่หรือไม่มี เข้าไปตามคนมาช่วยเป็นทางเดียวที่จะรอด และยังไม่ต้องเอาตัวมาเสี่ยงอีก แต่ไม่เป็นไร มันลากไปก็เพราะว่าหัวหน้าหมู่ของมัน รถมอเตอร์ไซค์ถูกขโมยไป และมาโทษว่า เรารวมหัวกับเพื่อนเอาไป คนเสื้อดำ กับหมวกดำ เป็นใครไม่รู้เอาไป เราก็เดินกับพี่่อู๊ดที่ใส่หมวกดำ มันเห็นก็เลยเข้าใจผิด เราอธิบายไปว่าเป็นพี่อู๊ด มันก็เข้าใจ และไอ็น๊อด ตัวแสบในนั่น ก็เป็นเพื่อนเรา ก็มาทำดียืนยันให้ว่าไม่มีอะไร เป็นพี่อู๊ด พอเข้ามาบ้านก็ด่านุชใหญ่ แต่ก็เป็นที่เข้าใจกันดีว่า เป็นห่วงก็เป็นวันที่ตื้นเต้นวันหนึ่ง
Top

ตีกันที่นารายณ์

ทำงานอยู่ที่ร้านนาราย์เป็นตอนที่ห้าวมากที่สุด ทั้งกิน พนัน ตี ฟัน แทง ทุกอย่าง ที่ไม่ดี ไปกินกันที่ สาขาอิมพีเรียลก็มีเรื่องตีกัน แต่เราไม่ได้เกี่ยวด้วย ไอ้พวกสาขา บางนามันหาเรื่องเอง พวกส่งของ ก็มีเรื่องกันวุ่นวายไปหมด พี่เหน่งก็เป็นที่เคารพมากจนแฟนของเพื่อนในร้าน เอาพวกมารุ่ม แฟนของเพื่อน เป็นผู้ชายที่เคยทำงานในนารายณ์เหมือนกัน เอาพวกมารอข้างหน้าห้างตอนปิดร้าน แต่เราออกมาก่อน เราเจอเพื่อนเ่ก่าตั้งแต่อยู่ประถมแล้วจำได้ มันถามว่า เราสู้คนหรือเปล่า เราก็บอกว่าไม่รู้แล้วแต่้สถานะการณ ดีนะที่เราไม่ใส่เสื้อนารายณ์วันนั้น เพราะ เพิ่งกลับมาจากโรงเรียน แต่ไม่รู้ว่ามันเป็นหนึ่งในคนที่มารุ่มพี่เรา ออกมาแยกตรงหน้าห้างเพราะ ไป กันคนละทาง เรามากับพวกผู้หญิง สวนพี่เหน่งไปกับบอยเพื่อนพี่เหน่ง เท่าที่เขาเล่าให้ฟัง พอนั่งตรง ป้ายรถเมล์มีผู้ชายคนหนึ่ง เดินมาเหยีบตรงที่นั่งและแตะ หน้าพี่เหน่ง สองคนก็งงและ เดินเข้าไปถาม และจะเอาคืนว่าทำไมทำอย่างนี้ พอเดินไป คนประมาณ 30-40 คน ลุกขึ้นมาจากรอบ รอบข้างพร้อมของแข็งและ ของคม เห็นก็วิ่งสิข้ามถนนมาไม่คิดชีวิต เพราะไม่ถูกรถชนก็ถูกคนชน ถึงอีกฝั่งก็รอดมา วันรุ่งขึ้นไอ้คนก่อเหตุก็มาหา คุยดีเหมือนไม่มีอะไร เกิดขึ้นเพราะพี่เหน่งไม่รู้ ว่าจะหาคนทำมาให้ เราก็ไม่รู้จนต่อมา แฟนผู้หญิงมากระซิบบอกให้ฟัง

The problem created from inside the shop with one of the gangster who works in there.  He was not happy with พี่เหน่ง so he gathers his clue to setup the battle zone the next night.  พี่เหน่ง กับ บอย were walking to the bus stop and one of them came over and kick บอย in the face, after he feel better from dizziness, they both walk to him to ask him why did he do that, the moment that they got there and about to talk to him, more then 30 people from everywhere got up, some with weapon, run to them, so พี่เหน่ง กับ บอย had to run for their lives. They run across the street like don’t care to the car because if that stop, they will die anyway.  Fortunately they got away and they told that guy at work (the gangster) about what happened and he seem to be very concerned, he even told พี่เหน่ง กับ บอย that he will help them to avenge those people.  I didn’t notice about any suspicious on him and I was kindda shock that his girlfriend who also work there, told me that it was him, he was the one who set up people and he was even there but พี่เหน่ง กับ บอย didn’t see him.  She told me after her crazy boyfriend was fired, and told me not to tell.  I can’t believe my ears but I didn’t tell.  Not only insider and outsider, who created the conflict, even intercompany people wanted to fight us.  We were drunk at the get together party at Imperial Mall, we had 3 Narai branches participated 1 was us, 2 was imperial themselves and the last one was บางนา.  Begin with food, drink, music and talk, after they loose it up a little and they start to gone wide.  We were just talking I didn’t know much of what are they talking about because mostly people from บางนา talk to พี่เหน่ง and they told him that he wanted to talk with him outside of the store, he went outside, but I didn’t even know.  พี่โด่ง said to me “hey why don’t you go check on you brother?”  ไอ้กบมึงไม่ไปดูพี่มึงบางหล่ะ? The next thing I know he was on the floor. I grab the chair and run after them, they split in two ways and I couldn’t get them because I was drunk.  We called the mall police and told them what happened, but we could get the guy.  In the morning, we try to contact them at their branch and try to get some money by negotiating.  I’m sure he didn’t get anything and later they quit their job.
Top

เฮโรอีน

ตอนเล็กก็อยู่ที่ กม 11 วันหนึ่งเห็นผู้ชายโทรม เดินมาแล้วโยนกระดาษเข้าข้างทาง เราก็เป็นพวก สอดรู้เสือกเห็น ก็เลยเดินไปเก็บมาดหลังลับตาไปแล้ว ู รู้อยู่แล้วว่าต้องมีอะไร เพราะ คุณพี่ทำไม่แนบเนียน เปิดมาเห็นผงขาวอยู่ในหลอดกาแฟน 12 หลอด ก็ตื้อเต้น จะเอามาเล่นดีหรือไม่ดี (ล้อเล้น) ก็หาที่ซ้อน พอแม่มาก็เอามาให้ดูแม่ ก็ตื้อเต้นเหมือนกัน แต่ไม่ให้พ่อรู้เพราะว่าเอาไปขายแน่ ก็เลย เสขคาถาถ่วงน้ำหลังบ้านในแอ่งใต้ถุนเพื่อนบ้าน ตอนเย็น ก็เห็นคนมาหา ใหญ่ไม่รู้หรอกว่าเราเอาไปโดบเสียแล้ว
Top

หนีโรงเรียนที่TBC

อยู่ที่บึงทองหลางมีน้อยมากที่หนีเรียน ที่วัดรวกหนีก็ไปเล่นเกมส์แต่เท่าที่จำได้ไม่เคยหนี อาจจะไปตอนเลิกเรียน ที่ไทยบริหารบางวันมีกิจกรรม แต่ก็ไม่ได้ทำทุกคน คนที่ไม่ทำก็ ไม่มีอะไรทำไปเลย น่าเบื่อ ก็ตัดสินใจหนีโรงเรียนกันเฉพาะพวกผู้ชาย หนีหลังโรงเรียนนั่นแหละ เพราะโรงเรียนติดกับมหาวิทยาลัยศรีปทุม และประตูมันเปิดอยู่ พอถึงประตูก็ลังเลกัน แต่อาจารย์ เห็นก็เลยเรียกในไมโครโฟน หลังจากนั่นก็ตื้นเต้นทำอะไรไม่ถูกแต่ก็ตัดสินใจวิ่งกันไป ประมาณ 6 คน วิ่งกันไปคนละทางสามทาง และจารย์เห็นก็เลยวิ่งตามมา เราก็ไม่รู้เท่าไหร่แต่ก็ไม่เสี่ยงพอ ออกมาถึงป้ายรถเมล์เราก็มานั่งรอรถเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น เพื่อนอีกคนเรียกแท็กซี่ไปได้ อีกคน วิ่งไปตัดหน้ารถเมล์ และก็วิ่งไปเลนที่สองไม่ได้ก็เลยวิ่งวนมาข้างหลังรถเมล์ และก็ขึ้นรถเมล์ไป ก็รอดไปอีกคนแต่ก็เสี่ยงน่าดู ดีไม่ถูกรถชน เราก็หันไปเห็นจารย์ออกมามองอย่างรวดเร็ว ก็เลย หันหน้าไปอีกทางเพราะว่าเราผูกไทร์อยู่แต่ดีที่จารย์ไม่เห็น รู้สึกว่าจับได้ 2 คน ถูกตีเลย เราก็รอดไปเจอกันที่เซ็นทรัลลาดพร้าว มาเล่ากันก็สนุกดี แต่ส่วนมาก ก็หนีโดยที่ไม่เข้าเรียนเลย
Top

ต้มตุ้น

ไปแลกเงินที่สะพานควายกับแม่มา ตอนแม่ไปเมืองไทยครั้งแรก ออกมานั่งรถแท็กซี่ไปบ้าน เรานั่งข้างหน้า ก็สังเกตว่าไม่มีรู้คนขับข้างหน้า และมีเงินเบงค์ 100 อยู่ตรงที่วางเงิน ก็รู้ว่าต้องมีอะไร ไม่ปกติแน่ และก็ชวนถามว่าอยู่ไหนอะไรยังไง ก็เลยไม่ไว้ใจพอถึงที่เสนาก็ เลยบอกว่าจะ ซื้อของ ให้จอดเขาบอกว่าจะรอก็เลยบอกว่าจะซื้อของนานให้ไปเลย และยังถามอีกว่าอยู่ที่ไหน ก็บอกว่าอยู่แถวนี้แหละ ลงมาแม่ถามว่า ทำไม ก็เลยบอกไปว่าผิดสังเกต และก็บอกให้ระวังก็เข้าไปใน 7-11 สังพักก็เหมารถซุบารุให้ขับวน ไปส่งบ้าน ให้ระวังคนพวกนี้ให้ดี ถึงจะไม่มีอะไรแต่ระวังตัวไว้ก่อนก็จะดี
Top

ขโมยของ

แต่ก่อนเป็นคนที่ชอบฉวยโอกาสในสิ่งเล็กน้อย หรือของใหญ่ เพราะว่าตามเพื่อน หรืออาจจะ เป็นมาแต่เกิดแล้วก็ได้ แต่ตอนนี้โตแล้วไม่ขโมยแล้วนิดเดียวก็ไม่เอา ซื่อสัตย์อย่างเดียว ตอนนี้ถึงได้มาเขียนเล่าบอกได้อย่า เข้าใจผิด ไปกับเพื่อนที่ไหน เห็นอะไร ได้ก็โชว์เพื่อนว่า เราเอามาได้อย่างง่าย ง่าย ไปงานเกษตรผ่าน ห้องเก็บของเห็น ลูกบาส และน้ำอัดลม เพื่อนท้า ก็ปีนเข้าไปเอาอย่างหน้าตาเฉย เพื่อนก็นับถือ ได้ตอนนี้ รู้สึกเสียใจกับเจ้าของ เห็นบัตร ATM ของน้าก็ เอามากดใช้ ปล่อยให้เข้าใจนึกว่าน้องเอาไปอยู่หลายปี ตอนนี้บอกแม่ให้รู้แล้ว และก็จะ หาเงินไปใช้ให้หลายเท่าที่เอามา เงินย่ารู้ว่าเขาเก็บไว้ตรงไหนก็แอบไปจิกมาที่ละนิดที่ละหน่อย ตอนนี้ย่าก็คงจะรู้เรื่องทั้งหมด ก็หวังว่าย่าคงจะให้อภัย ตอนนี้มีแต่จะให้คน จะให้เอาก็คงจะไม่มี แล้ว มองไปตอนหลังก็รู้ว่าทำผิดเป็นคนไม่มีเลย ก็ขออภัยในทุกทุกสิ่งที่ทำไป
Top

เห็นศพ

พ่อพาไปดูรูปคนตายที่หน้า ปอ เต๊ก ตึ้ง เพื่อให้เห็นไฟในชีวิต ก็รู้สึกไม่ดี เพราะยังเด็กอยู่ เห็นภาพคนตายใน อินเตอร์เน๊ท ก็เยอะตอนโตก็ยังรู้สึกไม่ดีอยู่ เห็นคนรถคว่ำต่อหน้าต่อตา ชักตรงพื้น ก็รู้สึกไม่ดีตรงถนนแถวแถววัดลาดพร้าว คนมีแต่มองไม่มีใครช่วย ขับผ่านไป กลัวเลือดจะเปื้อนรถและ กลัวจะตายในรถ แต่ไม่รู้ว่าตายหรือเปล่า เห็นหมาถูกรถชนจังจัง กับพี่อู๊ดที่แถวสนามหลวง หมาเจ้ากรรมอยู่ตรงกลางถนนตรงทางโค้งพอดี พี่อู๊ดถามว่า ถ้าช่วยได้จะช่วยไหม ก็บอกว่าจะช่วยยังไม่ทันขาดคำ รถเก๋งวิ่งมาชนกระเด็นไป ประมาณ 20-30 เมตรได้ และก็ขับไปเลย แต่หมาก็ร้องอย่างดังประมาณ 6 เอ๋งก็เงียบไป เรากับพี่อู๊ดยืนมองตั้งแต่ ต้นจนจบเงียบไม่พูดอะไร แล้วก็เดินออกไป พูดอีกทีตอนขึ้นรถเพราะว่าสลดใจ ทำอะไรไม่ได้ แต่ที่เห็นศพจังจัง ก็คือตอนเช้ากำลังไปโรงเรียน ที่บึงทองหลาง เดินมาเห็นคนเยอะมุงตามเคย ตรงสะพาน ก็ดูหน่อย เห็น คนตายลอยน้ำมาติดตรงสะพานพอดี บวมนอนคว่ำอยู่ แต่ไม่ได้ดูนาน ต้องไปโรงเรียน มารู้ตอนหลังว่าเป็นผู้หญิงถูกตีตายแล้วโยนลงน้ำ และได้ยินว่า ตอนที่เขาเอาศพขึ้นมา บนบกตอนเลือดไหลออกมาทางหูกับจมูก กลิ่นก็ออกมาด้วย อย่างแรง ดีนะที่ไม่อยู่ดู และก็ไม่อยากจะเห็นศพที่ไหนอีกต่อไป
Top